วิธีทำให้คอมเร็วขึ้น Windows 10 2018: บทความแสนรวบรัด

วิธีทำให้คอมเร็วขึ้น Windows 10 2018: การปรับแต่งการตั้งค่าระบบ การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ การลบไฟล์ไม่จำเป็นและเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดระบบ การปิดบริการที่ไม่จำเป็น การใช้งานโปรแกรมแบบเบาที่เหมาะสม การตรวจสอบไวรัสและเช็คความปลอดภัย การเลือกใช้งานฟีเจอร์และปรับแต่งต่างๆ ของ Windows 10

Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน แต่บางครั้งคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows 10 อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความช้าหรือประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าที่คุณคาดหวัง ในบทความนี้เราจะแนะนำวิธีทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เร็วขึ้นในปี 2018 รวมถึงวิธีปรับแต่งการตั้งค่าระบบ การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ การลบไฟล์ไม่จำเป็นและเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดระบบ การปิดบริการที่ไม่จำเป็น การใช้งานโปรแกรมแบบเบาที่เหมาะสม การตรวจสอบไวรัสและเช็คความปลอดภัย การเลือกใช้งานฟีเจอร์และปรับแต่งต่างๆ ของ Windows 10

วิธีทำให้คอมเร็วขึ้น Windows 10 2018:
1. การปรับแต่งการตั้งค่าระบบ
– ปิดหรือลดคุณสมบัติที่ไม่จำเป็น เช่น แอปพลิเคชันและบริการที่ไม่ได้ใช้งาน ที่จะสามารถทำได้ผ่าน Control Panel หรือ Settings ใน Windows 10
– ปรับแต่งการตั้งค่าพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ โดยเปลี่ยนเป็นโหมดการใช้งานที่ต้องการได้แก่ Balanced Mode หรือ High Performance Mode
– เปิดใช้งานเลื่อนนับเวลารอเพื่อปิดการทำงานของฮาร์ดแวร์ที่ไม่ใช้อยู่ เช่น ฮาร์ดดิสก์หรืออุปกรณ์ USB

2. การอัปเกรดฮาร์ดแวร์
– อัปเกรดหรือเพิ่มประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ เช่น เพิ่มหน่วยความจำ (RAM) หรือติดตั้งฮาร์ดดิสก์ (SSD) เพื่อเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล

3. การลบไฟล์ไม่จำเป็นและเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดระบบ
– ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นหรือซ้ำซ้อน เช่น ไฟล์ชั่วคราว รูปภาพที่ไม่ได้ใช้งาน หรือแฟ้มขยะ โดยใช้เครื่องมือในระบบหรือโปรแกรมที่สามารถทำความสะอาดระบบได้ เช่น Disk Cleanup หรือ CCleaner

4. การปิดบริการที่ไม่จำเป็น
– ปิดหรือปรับแต่งการทำงานของบริการที่ไม่จำเป็น เพื่อลดการใช้งานทรัพยากรระบบ เช่น บริการแชร์ไฟล์หรือบริการอัพเดตอัตโนมัติ โดยใช้คำสั่ง services.msc ใน Windows 10

5. การใช้งานโปรแกรมแบบเบาที่เหมาะสม
– เลือกใช้งานโปรแกรมที่ใช้ทรัพยากรระบบน้อยและมีประสิทธิภาพสูง เช่น เบราว์เซอร์ Google Chrome หรือ Mozilla Firefox แทนเบราว์เซอร์ที่ใช้ทรัพยากรมาก เช่น Microsoft Edge

6. การตรวจสอบไวรัสและเช็คความปลอดภัย
– ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีความเชี่ยวชาญ และอัปเดตเป็นครั้งคราว เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส และความเสี่ยงต่างๆ
– เช็คความปลอดภัยและอัปเดตระบบปฏิบัติการอยู่เสมอ เพื่อรับประสบการณ์การทำงานที่ดียิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากช่องโหว่ของระบบ

7. การเลือกใช้งานฟีเจอร์และปรับแต่งต่างๆ ของ Windows 10
– เลือกใช้งานฟีเจอร์ที่จำเป็นและอยู่ในกรอบของการใช้งานของคุณ เช่น ปรับแต่งธีมหน้าจอ ตั้งค่าการบันทึกภาพหน้าจอ หรือการใช้งานโหมดทดสอบ (Game Mode) เป็นต้น

หากคุณต้องการปรับแต่ง Windows 10 ให้เร็วขึ้นในรุ่นอื่นๆ เช่น Windows 7 หรือ Windows 11 คุณสามารถทำตามขั้นตอนด้านบนเช่นเดียวกัน โดยปรับให้เหมาะสมกับรุ่นของระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งานอยู่

FAQs

1. วิธีทำให้ Windows 10 boot เร็วขึ้นคืออะไร?
– เพื่อทำให้ Windows 10 boot เร็วขึ้น คุณสามารถลดเวลาในการทำงานของโปรแกรมและบริการที่ต้องการทำงานหลังจากเปิดคอมพิวเตอร์ โดยเปิดหน้า Task Manager และป้อน “msconfig” ในแท็บ “Startup” เพื่อปิดการทำงานของโปรแกรมที่คุณไม่ต้องการให้ทำงานอัตโนมัติกับ Windows

2. มีโปรแกรมใดที่ทำให้คอมเร็วขึ้นบน Windows 10 ได้บ้าง?
– มีโปรแกรมมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 เช่น CCleaner, Advanced SystemCare, และ IOBit Driver Booster เป็นต้น อย่างไรก็ตามคำแนะนำเดิมคือเลือกใช้งานโปรแกรมที่มีความปลอดภัยและมีผลงานที่ดี

3. วิธีการปรับแต่ง Windows 10 เพื่อทำให้มีความสวยงาม?
– Windows 10 มีตัวเลือกให้คุณปรับแต่งหน้าจอ รวมถึงธีม สี และพื้นหลัง คุณสามารถทำได้ผ่าน Settings > Personalization > Themes ใน Windows 10 อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันให้คุณสร้างสรรค์ภาพหน้าจออีกด้วย อย่างเช่น Rainmeter และ Wallpaper Engine

4. วิธีทำให้เน็ตเร็วขึ้นบน Windows 10 คืออะไร?
– เพื่อทำให้เน็ตเร็วขึ้นบน Windows 10 คุณสามารถทำการตรวจสอบและอัปเดตไดร์เวอร์เครือข่าย ตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย รวมทั้งปิดโปรแกรมและบริการที่กินแบนด์วิดท์โดยไม่จำเป็น เช่น แชร์ไฟล์อื่นๆและโปรแกรมการดาวน์โหลด

ในสรุป การทำให้คอมเร็วขึ้นใน Windows 10 2018 นั้นเราสามารถปรับแต่งการตั้งค่าระบบ อัปเกรดฮาร์ดแวร์ ลบไฟล์ไม่จำเป็นและเครื่องมือสำหรับการทำความสะอาดระบบ ปิดบริการที่ไม่จำเป็น ใช้โปรแกรมแบบเบาที่เหม

ทํายังไงให้คอมเร็วขึ้น Windows 10

Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวันนี้ ด้วยการอัปเกรดที่น่าสนใจต่าง ๆ และฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพ เข้าใช้งานสมบูรณ์ แต่บางครั้งคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คที่ใช้ Windows 10 อาจกลายเป็นอุปสรรคของความเร็วในการทำงาน เนื่องจากระบบปฏิบัติการที่หนักและบริโภคทรัพยากรระบบสูง แต่ไม่ต้องกังวล เพราะวันนี้เราจะพาท่านไปดูวิธีแก้ไขปัญหานี้และทำให้คอมเร็วขึ้น Windows 10

1. ตรวจสอบและปรับแต่งการเริ่มต้นของบริการ: เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ บริการต่าง ๆ เช่น โปรแกรมที่ทำงานอยู่ร่วมกันในระบบ จะถูกโหลดและทำงานพร้อมกัน สำหรับบางครั้ง โปรแกรมเหล่านี้อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ใน Windows 10 คุณสามารถเปิดหน้าต่าง “Task Manager” โดยการกด Ctrl + Shift + Esc และเลือก “เริ่มต้น” ที่ด้านบน จากนั้น คุณจะเห็นรายการของโปรแกรมที่เริ่มทำงานพร้อมกัน และบางรายการที่คุณไม่ต้องการให้เริ่มทำงานควรถูกทำเครื่องหมายให้ถูกเลือก จากนั้นคลิก “ปิดการใช้งาน” เพื่อปิดการเริ่มทำงานพร้อมกันของโปรแกรมดังกล่าว

2. ทำความสะอาดฮาร์ดดิสก์และเว้นพื้นที่ว่าง: เวลาผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีข้อมูลจำนวนมากบนฮาร์ดดิสก์ อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง เพื่อความรวดเร็วและคงที่ของระบบ ควรลบและย้ายข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกจากฮาร์ดดิสก์ของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือที่ใช้ในการถ่ายโอนข้อมูล เช่น “Disk Cleanup” และ “Storage Sense” ที่ Windows 10 ได้รวบรวมไว้ใช้งาน โดยเปิดหน้าต่าง “Settings” และค้นหา “Storage” เพื่อใช้งานเครื่องมือเหล่านี้

3. กระตุ้นแบตช์แม็พและประสิทธิภาพระบบ: Windows 10 มีแอปพลิเคชันต่าง ๆ ร่วมกันทำงานเบาสมอง (background processes) ที่สามารถลดปริมาณแบตเตอรี่และทรัพยากรระบบได้ ในการซ่อมแบตช์แม็พและประสิทธิภาพระบบ คุณสามารถเปิดหน้าต่าง “Settings” และค้นหา “Background Apps” จากนั้นคุณสามารถปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการให้ทำงานอยู่ร่วมกันเบาสมองได้

4. ปิดใช้งานภาพพื้นหลังและเส้นทางของวินโดว์: Windows 10 มีการใช้งานภาพพื้นหลังที่สวยงาม แต่ก็อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง การปิดใช้งานภาพพื้นหลังและเส้นทางของวินโดว์ จะช่วยเพิ่มความเร็วให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ ในการทำงานนี้ คุณสามารถเปิดหน้าต่าง “Settings” และค้นหา “Background” จากนั้นเลือก “Background apps” ข้ามไปที่ “Personalization” และเลือก “Background” จากนั้นปิดหรือเปลี่ยนเส้นทางของวินโดว์เป็นสีเรียบ

5. อัปเดตและปรับแต่งไดร์เวอร์: การมีไดร์เวอร์ที่ตรงกับฮาร์ดแวร์สำคัญในคอมพิวเตอร์มีความสำคัญมาก การใช้งานไดร์เวอร์ที่ล้าสมัยหรือไม่ถูกต้องอาจทำให้ระบบทำงานช้าลง คุณสามารถอัปเดตไดร์เวอร์ที่ถูกต้องโดยเข้าเว็บไซต์ของผู้ผลิตฮาร์ดแวร์หรือใช้เครื่องมือแบบอัตโนมัติที่จัดให้บน Windows 10 เพื่ออัปเดตไดร์เวอร์อย่างสม่ำเสมอ

FAQs:

1. ทำไมคอมพิวเตอร์ของฉันทำงานช้าลงเมื่ออัปเกรดเป็น Windows 10?
เหตุผลหลักที่คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลงหลังจากอัปเกรดเป็น Windows 10 อาจเป็นเพราะระบบปฏิบัติการใหม่มีการบริโภคทรัพยากรระบบมากขึ้น และอาจมีคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ไม่รองรับหรือมีปัญหาเฉพาะกับ Windows 10

2. จะต้องการเวลาเท่าไรในการปรับแต่งคอมพิวเตอร์ที่ช้าลงหลังจากอัปเกรดเป็น Windows 10?
เวลาที่จะปรับแต่งคอมพิวเตอร์ที่ช้าขึ้นหลังจากอัปเกรดเป็น Windows 10 ขึ้นอยู่กับปัญหาที่สร้างความจำเป็นในการปรับแต่ง อาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่นาทีจนถึงหลายชั่วโมง

3. ทำไมคอมพิวเตอร์ของฉันยังคงทำงานช้าโดยไม่คำนึงถึงขั้นตอนที่ได้กล่าวถึง?
นอกเหนือจากขั้นตอนที่ได้กล่าวมาให้ลองมาแล้วคุณอาจต้องพิจารณาปัญหาอื่นที่อาจก่อให้เกิดสถานการณ์นี้ เช่น คอมพิวเตอร์ที่มีแอนติ้ไวรัส เข้าสู่ฮาร์ดแวร์ที่ติดเชื้อ หรือการทำงานของแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมที่บรรทัดหลัง ดังนั้นควรตรวจสอบปัญหาที่เป็นไปได้ทั้งหมดและดำเนินการแก้ไขเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานคืนความเร็ว

4. ควรปรับแต่งคอมพิวเตอร์ใน Windows 10 อย่างไรบ้าง?
การปรับแต่งคอมพิวเตอร์ใน Windows 10 สามารถทำได้โดยตรวจสอบและปรับแต่งการเริ่มต้นของบริการ เพิ่มพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ กระตุ้นแบตช์แม็พและประสิทธิภาพระบบ ปิดใช้งานภาพพื้นหลังและเส้นทางของวินโดว์ และอัปเดตและปรับแต่งไดร์เวอร์

อะไรช่วยให้คอมเร็วขึ้น: เทคนิคเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเพลิดเพลินในเกมส์ การที่คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ หากคุณกำลังค้นหาวิธีเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ บทความนี้จะแนะนำเทคนิคต่างๆ ที่คุณสามารถทำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

1. ปรับแต่งฮาร์ดแวร์
การอัปเกรดฮาร์ดแวร์เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณสามารถอัปเกรดหน่วยประมวลผล (CPU) เพื่อให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น รวมถึงเพิ่มหน่วยความจำแรม (RAM) เพื่อให้มีพื้นที่หน่วยความจำเพียงพอสำหรับโปรแกรมและแอปพลิเคชันที่คุณใช้งานบ่อยๆ อัปเกรดดราฟิกการ์ด (Graphic Card) ก็สามารถช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเกมส์ของคุณได้

2. ล้างฮาร์ดดิสก์ (Hard Drive)
ฮาร์ดดิสก์ที่มีข้อมูลสะสมจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลง การล้างฮาร์ดดิสก์โดยลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกไปจะช่วยเพิ่มพื้นที่ว่างและประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณสามารถใช้โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อล้างฮาร์ดดิสก์อย่างมีประสิทธิภาพเช่น CCleaner หรือ Disk Cleanup ซึ่งเป็นเครื่องมือล้างฮาร์ดดิสก์และตรวจสอบข้อมูลที่ไม่จำเป็นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ

3. เปิดใช้งานโปรแกรมถาอิเล็กทรอนิกส์ (SSD)
หน่วยความจำแบบถาอิเล็กทรอนิกส์ (Solid State Drive or SSD) เป็นหน่วยความจำแบบใช้ซีพียูและจดจำได้อย่างรวดเร็ว ความจุที่มากขึ้นและความเร็วที่สูงขึ้นของ SSD จะช่วยให้คอมพิวเตอร์เร่งความเร็วในระบบปฏิบัติการและโปรแกรมต่างๆ ในการติดตั้ง SSD เป็นแบบเสียบพอร์ต SATAภายในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือใช้เป็นหน่วยความจำภายนอก (External SSD)

4. ลดโปรแกรมรันอัตโนมัติที่ไม่จำเป็น
โปรแกรมที่ทำงานอัตโนมัติในเบื้องหลังอาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ช้าลง คุณสามารถส่งเรียกดูโปรแกรมที่ทำงานอัตโนมัติที่ไม่จำเป็นและปิดเครื่องบริการเหล่านั้นได้ผ่านคีย์ Ctrl+Shift+Esc เพื่อเข้าสู่ Task Manager หลังจากนั้นคุณสามารถเลือกแท็บ “บริการ” และปิดการทำงานของโปรแกรมที่ไม่จำเป็นได้

5. ปรับแต่งค่าระบบปฏิบัติการ
การปรับแต่งค่าระบบปฏิบัติการเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณสามารถลดความล่าช้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้โดยการปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น เช่น การติดตั้งโปรแกรมที่ใช้งานน้อยในระบบไดร์ฟ (Startup Programs) การปรับแต่งระบบเครือข่าย เปลี่ยนแปลงสิทธิเข้าถึงและสิทธิที่จำเป็น เป็นต้น

6. รีเซ็ตคีย์บอร์ด (Keyboard)
บางครั้งปัญหาเรื่องความเร็วของคอมพิวเตอร์อาจมาจากปัญหาเชิงฮาร์ดแวร์ของคีย์บอร์ด รีเซ็ตคีย์บอร์ดโดยการถอดปุ่มแล้วทาบกลับ หากคอมพิวเตอร์กำลังทำงานค้างคาวหรือการพิมพ์ไม่สามารถแสดงผลทันที ก็อาจจะต้องลองตรวจสอบความเร็วของคีย์บอร์ดและทำการรีเซ็ต

7. โปรแกรมตรวจสอบไวรัสและมัลแวร์
ไวรัสและมัลแวร์อาจอยู่ในระบบของคอมพิวเตอร์และทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง คุณควรใช้โปรแกรมตรวจสอบไวรัสและมัลแวร์เพื่อตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของคุณ และลบไวรัสหรือมัลแวร์ที่พบออกไป

FAQs:

Q: เหนื่อยที่ต้องรอคอมพิวเตอร์ที่ช้าเป็นประจำ ควรทำอย่างไร?
A: หากคอมพิวเตอร์ของคุณช้าเป็นประจำ คุณสามารถลองทำเทคนิคต่างๆ ดังที่กล่าวมาในบทความนี้ เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์

Q: อะไรคือวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์?
A: วิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์คือการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ เช่น CPU, RAM, และการ์ดจอ ซึ่งจะช่วยคุณเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของเครื่อง

Q: ทำไมความจำแรมมีความสำคัญสำหรับความเร็วของเครื่องคอมพิวเตอร์?
A: ความจำแรม (RAM) เป็นส่วนที่เก็บข้อมูลและโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น การมีความจำแรมเพียงพอจะช่วยให้เครื่องแสดงผลและดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากไม่ต้องเข้าถึงฮาร์ดดิสก์ในการเรียกใช้ข้อมูล

Q: อะไรคือ SSD และทำไมมันช่วยเพิ่มความเร็วให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์?
A: SSD (Solid State Drive) เป็นหน่วยความจำแบบถาอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลเร็วกว่าฮาร์ดดิสก์สมัยก่อนที่ใช้การหมุนแผ่น การติดตั้ง SSD จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์

Q: อะไรคือรหัสการ์ดและทำไมมันมีผลต่อความเร็วของคอมพิวเตอร์?
A: การ์ดจอ (Graphic Card) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ประมวลผลกราฟิกส์และวิดีโอ การ์ดจอที่มีความสามารถและประสิทธิภาพมีผลต่อความเร็วในการเล่นเกมส์และใช้งานโปรแกรมกราฟิกส์ที่ต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น การอัปเกรดการ์ดจอโดยเปลี่ยนเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้

ในสรุป เทคนิคต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังการดำเนินการและตรวจสอบให้แน่ใจว่าการปรับแต่งหรือการอัปเกรดจะสอดคล้องกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของคอมพิวเตอร์ให้เข้ากันได้อย่างถูกต้อง

วิธีทําให้คอมเร็วขึ้น Windows 7
Windows 7 เป็นระบบปฏิบัติการที่ยอดเยี่ยมและใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ในบางครั้งคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้อาจมีปัญหาเกี่ยวกับความช้าหรือความไม่เสถียร หากคุณก็เป็นหนึ่งในผู้ที่พบปัญหาเช่นนี้ ในบทความนี้เราจะอธิบายวิธีที่คุณสามารถดำเนินการเพื่อทำให้คอมเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างรวดเร็วและเสถียรขึ้น

การทำความสะอาดบนวินโดว์ (Windows Clean Up)
การทำความสะอาดบนวินโดว์ (Windows Clean Up) เป็นขั้นตอนแรกที่คุณควรทำ เนื่องจากเราสามารถเก็บขยะที่ไม่จำเป็นและไฟล์ที่ไม่ใช้ได้ออกจากระบบ ซึ่งจะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 1: เริ่มการทำความสะอาดโดยการเข้าสู่โหมด Disk Cleanup ของวินโดว์ 7 โดยคุณสามารถทำได้โดยการคลิกขวาที่ไดรฟ์เข้าสู่ระบบ ทางเลือกคำสั่ง Disk Cleanup จะปรากฏขึ้น เลือกไดรฟ์ที่คุณต้องการเพื่อทำความสะอาดและคลิก OK

ขั้นตอนที่ 2: ในหน้าต่าง Disk Cleanup จะปรากฏรายการของไฟล์ที่คุณสามารถลบได้ คลิกเลือกรายการที่คุณต้องการลบแล้วคลิก OK

การปรับแต่งคอมพิวเตอร์ (Computer Customization)
การปรับแต่งคอมพิวเตอร์ (Computer Customization) เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างตอบสนองและมีความเร็ว

ขั้นตอนที่ 1: ปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นที่กินทรัพยากรของระบบ การปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรของระบบและทำให้คอมพิวเตอร์มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ในการทำงานนี้ คุณสามารถเข้าสู่โหมด Uninstall or Change a Program ภายใต้ Control Panel เพื่อลบโปรแกรมที่ไม่ต้องการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2: ปรับแต่งการทำงานของ Windows Update การปรับแต่งการทำงานของ Windows Update จะช่วยให้คุณควบคุมได้ว่าจะต้องโหลดและติดตั้งอัปเดตโปรแกรมของ Microsoft อัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งการปิด Windows Update จะช่วยประหยัดทรัพยากรของระบบอย่างมาก

ประสิทธิภาพของเครื่องแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Performance)
การปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Performance) สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ได้อีก

ขั้นตอนที่ 1: ปรับแต่ง Visual Effects ของ Windows การปรับแต่ง Visual Effects ของ Windows เป็นวิธีที่คุณสามารถลดการใช้ทรัพยากรของระบบได้อีก ซึ่งคุณสามารถทำได้โดยเปิดหน้าต่าง System Properties และเลือก Performance Options จากนั้นเลือก Adjust for best performance และคลิก OK

ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบอัปเดตไดรเวอร์ การอัปเดตไดรเวอร์สำคัญเพื่อให้เครื่องแบบฮาร์ดแวร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถทำการอัปเดตไดรเวอร์ของคุณได้โดยเข้าสู่ Device Manager แล้วทำการอัปเดตไดรเวอร์ที่คุณต้องการ

ถามตอบพื้นฐาน (FAQs)
คำถามที่ 1: ทำไมคอมพิวเตอร์ของฉันถึงทำงานช้า?
คำตอบ: มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้า เช่น ไวรัส โปรแกรมที่ทำงานแบบออกแบบไม่ดี หรือติดตั้งไฟล์หลายๆ อัน

คำถามที่ 2: คำแนะนำเพิ่มเติมในการทำให้คอมเร็วขึ้น?
คำตอบ: มีหลายวิธีที่คุณสามารถลองทำ เช่น ล้างแคชและคุกกี้ รีเซ็ตคอมพิวเตอร์ใหม่ ลดจำนวนโปรแกรมที่ทำงานพร้อมกัน

คำถามที่ 3: ควรลงโปรแกรมใดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์?
คำตอบ: มีหลายโปรแกรมที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ เช่น โปรแกรมคลีนเนอร์ (cleaner) และโปรแกรมจัดการไฟล์ออโต้เรียด (defragmentation)

วันนี้เราได้แนะนำวิธีที่คุณสามารถทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานได้อย่างรวดเร็วและเสถียรขึ้น หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับความช้าหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ทำงานในระดับดี คุณสามารถลองดำเนินการตามขั้นตอนที่แนะนำในบทความนี้เพื่อแก้ไขปัญหาได้ดีเยี่ยม

วิธีทําให้คอมเร็วขึ้น windows 11

Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดของไมโครซอฟท์ที่ถือว่ามีการอัพเกรดและปรับปรุงให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างราบรื่นและเร็วขึ้นมาก แต่บางครั้งอาจมีปัญหาที่ทำให้ Windows 11 ทำงานได้ช้าลง หากคุณกำลังพบปัญหาดังกล่าว สามารถทำตามวิธีด้านล่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้คอมเร็วขึ้นได้

1. ล้างไฟล์ขยะและดิสก์:
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มความเร็วของ Windows 11 คือการทำความสะอาดไฟล์ขยะและดิสก์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่ภายใน Windows เช่น Disk Cleanup หรือ Storage Sense เพื่อลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกไป และคืนพื้นที่บนดิสก์ให้มีมากขึ้น

2. ปิดบริการที่ไม่จำเป็น:
Windows 11 อาจมีบริการที่เริ่มทำงานอัตโนมัติเมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบคอมพิวเตอร์และทรัพยากรของระบบคอมพิวเตอร์ คุณสามารถปิดบริการที่ไม่จำเป็นดังกล่าวได้ โดยใช้การค้นหาบริการใน Windows 11 และปิดบริการที่คุณไม่ค่อยใช้งานเพื่อประหยัดพลังงานและทรัพยากรระบบ

3. ลดจำนวนโปรแกรมที่เริ่มทำงานพร้อมกัน:
หากคุณพบว่า Windows 11 ยังคงทำงานช้าลง อาจจะเกิดจากมีโปรแกรมหลายๆ ตัวที่เริ่มทำงานพร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคอมพิวเตอร์ คุณสามารถลดจำนวนโปรแกรมที่เริ่มทำงานพร้อมกัน เพื่อให้ซอฟต์แวร์ในระบบได้ทำงานด้วยความราบรื่นและประสิทธิภาพ

4. ปรับแต่งการเริ่มการทำงาน:
Windows 11 มีตัวเลือกในการปรับตั้งค่าการเริ่มการทำงาน คุณสามารถทำการจัดการและปิดการทำงานของโปรแกรมและแอปพลิเคชันที่เริ่มเมื่อคุณเปิดคอมพิวเตอร์ โดยการเปิด Task Manager และไปที่หน้าของ “Startup” คุณสามารถปิดการทำงานของโปรแกรมที่คุณไม่ต้องการให้เริ่มทำงานพร้อมกันเมื่อคอมพิวเตอร์เปิดขึ้นมา

5. อัปเดตไดร์เวอร์:
อัปเดตไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ของคุณ เช่น การ์ดกราฟิก ไดร์เวอร์เครือข่าย เป็นต้น การอัปเดตไดร์เวอร์ที่เข้าเว็บไซต์ผู้ผลิตเพื่อตรวจสอบว่ามีการอัปเดตล่าสุดหรือไม่ อัปเดตไดร์เวอร์นี้อาจช่วยให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม

6. เพิ่มแรม (RAM):
การเพิ่มปริมาณแรมในระบบคอมพิวเตอร์ของคุณจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้ Windows 11 ทำงานได้อย่างราบรื่นและเร็วขึ้นอีกด้วย คุณสามารถเพิ่มแรมด้วยการเพิ่มแผงหน่วยความจำภายในเครื่องหรือใช้เทคนิคของ Windows ReadyBoost ซึ่งให้คุณใช้ระบบฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

แอร์ติเคิลถาม (FAQs):

Q: จะมีผลอย่างไรถ้าไม่เคลียร์ไฟล์ขยะบนคอมพิวเตอร์ของฉัน?
A: ไม่เคลียร์ไฟล์ขยะอาจทำให้ดิสก์อุดมสมบูรณ์และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง นอกจากนี้ยังอาจทำให้หน่วยความจำของระบบคอมพิวเตอร์ของคุณไม่พอใช้งานในการเริ่มโปรแกรมเพิ่มเติม

Q: จะมีอันตรายหรือทำให้คอมพิวเตอร์มีปัญหากับการปิดบริการที่ไม่จำเป็นไหม?
A: ไม่นัก ปิดบริการที่ไม่จำเป็นแต่ดูแลว่าคุณไม่ใช้งานอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบคอมพิวเตอร์โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ แต่คุณควรจดโดยเฉพาะถ้าบริการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเครื่องเขียนแผ่นหลายๆ เช่น เครือข่ายหรือเสียง

Q: มีวิธีอื่นๆ ที่สามารถใช้เพิ่มประสิทธิภาพของ Windows 11 ได้หรือไม่?
A: ใช่, มีวิธีอื่นๆ เช่น การทำความสะอาดฮาร์ดแวร์, ลดความล่าช้าของโปรแกรมโดยใช้ Task Manager, ทำการตรวจสอบไวรัสและซอฟต์แวร์ต่างๆ และการปรับแต่งการทำงานของระบบ เป็นต้น

ในสรุป การทำให้คอมเร็วขึ้นใน Windows 11 สามารถทำได้โดยใช้ตัวเลือกต่างๆ เช่น การล้างไฟล์ขยะและดิสก์, ปิดบริการที่ไม่จำเป็น, ลดจำนวนโปรแกรมที่เริ่มทำงานพร้อมกัน, ปรับแต่งการเริ่มการทำงาน, อัปเดตไดร์เวอร์, และเพิ่มแรม โดยปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและทำให้ Windows 11 ทำงานได้อย่างราบรื่นและเร็วขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธี ทํา ให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้น

Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจและรองรับการใช้งานหลากหลาย อย่างไรก็ตาม บางครั้งเมื่อเราเริ่มต้นเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 10 อาจใช้เวลานานในขั้นตอนของการ boot เมื่อมีการเปิดเครื่องครั้งเเรกในแต่ละวันหรือหลังจากระบบถูกปิดเกิดขึ้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการทำให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้นโดยใช้เทคนิคต่างๆ

วิธีที่ 1: คำสั่ง Power Configuration

หนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้นคือการใช้คำสั่ง powercfg ที่ให้ความสามารถในการปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการบริหารพลังงานในระบบปฎิบัติการ การตั้งค่าพลังงานที่เหมาะสมสำหรับการ Boot ของ Windows 10 เพื่อเพิ่มความเร็วในขั้นตอนที่เกี่ยวกับการ Start up

1. ให้เปิด Command Prompt ด้วยการคลิกขวาที่ Start button และเลือก Run จากนั้นพิมพ์ “cmd” แล้วกด Enter
2. เมื่อ Command Prompt เปิดขึ้นมาให้พิมพ์คำสั่ง powercfg /hibernate off และกด Enter
3. เปิดคำสั่งอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเร็วในการ Boot โดยการพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้

– powercfg /fastboot แล้วกด Enter
– powercfg /setactive scheme_current แล้วกด Enter
– powercfg /g แล้วกด Enter

คำสั่งเหล่านี้จะช่วยปรับการตั้งค่าการบริหารพลังงานในระบบปฏิบัติการ และทำให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้น

วิธีที่ 2: ลบคุกกี้และไฟล์ที่ไม่จำเป็น

การลบคุกกี้และไฟล์ที่ไม่จำเป็นจะช่วยลดฟังก์ชันที่บังคับให้ Windows 10 ทำงานด้วยความเร็วที่เกินไป ซึ่งอาจทำให้การ Boot ช้าลงได้

1. ให้เปิดพัดลม (Windows Explorer) โดยการคลิกขวาที่ Icon บน Taskbar และเลือก Open Windows Explorer
2. ไปที่ Drive C หรือ Drive ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows ที่ติดตั้ง อาจจะเป็น Drive D หรือ E ในบางกรณี
3. เมื่อเข้าถึง Drive ที่เกี่ยวข้องให้เปิดโฟลเดอร์ชื่อ Windows
4. หลังจากนั้นเลือก Temp และลบไฟล์ทั้งหมดภายในโฟลเดอร์ดังกล่าว
5. ทำในขั้นตอนเดียวกันกับโฟลเดอร์ชื่อ Prefetch โดยเข้าถึงได้โดยที่ Path C:\Windows
6. เพิ่มต่อจากนั้นเลือกคุกกี้ (cookies) ที่เก้าอี้ประจำคนก็เหมือนกัน โดยเข้าถึงได้ตาม Path C:\Users\[ชื่อ User ของคุณ]\AppData\Roaming\Microsoft\Windows\Cookies

การลบคุกกี้และไฟล์ที่ไม่จำเป็นจะช่วยลดข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นๆ ที่เก็บไว้ในระบบ ซึ่งอาจทำให้การ Boot เร็วขึ้น

วิธีที่ 3: ใช้ Disk Cleanup

การใช้คำสั่ง Disk Cleanup จะช่วยในการล้างขยะและไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจากระบบ ที่อาจก่อให้เกิดความช้าในการ Boot Windows 10

1. ให้เปิด Disk Cleanup โดยการกดปุ่ม Start แล้วพิมพ์ “Disk Cleanup” และเลือกเข้าถึงโปรแกรม
2. เลือก Drive C (หรือ Drive ที่เกี่ยวข้อง) แล้วคลิก OK
3. ในหน้าต่าง Disk Cleanup ให้ทำการเลือกไฟล์ที่ต้องการลบ โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถเลือกทุกอย่าง เพื่อให้การ Boot เร็วขึ้นได้มากที่สุด
4. คลิก OK และเลือก “Delete Files” เพื่อยืนยันการลบไฟล์

FAQs (คำถามที่พบบ่อย)

1. ทำไม Windows 10 ใช้เวลาในขั้นตอนการ Boot นาน?
ปัจจัยที่ทำให้ Windows 10 ใช้เวลาในขั้นตอนการ Boot นานอาจเกิดจากการรันโปรแกรมแบบหลายๆ ตัวพร้อมกัน หรือมีไม่มีการปรับแต่งบางส่วนที่มีผลต่อการเริ่มต้นระบบ

2. การเริ่มต้นแบบ “Fast Startup” ช่วยให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้นหรือไม่?
ใช่ เริ่มต้นแบบ “Fast Startup” เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยลดเวลาในขั้นตอนการ Boot ของ Windows 10 โดยอนุภาพให้คอมพิวเตอร์คงสภาพที่มาเมื่อครั้งที่ปิดระบบล่าสุด

3. ควรลบคุกกี้และไฟล์ที่ไม่จำเป็นบ่อยๆ หรือไม่?
ควรลบคุกกี้และไฟล์ที่ไม่จำเป็นเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมข้อมูลที่บังคับให้ Windows 10 ทำงานด้วยความเร็วที่เหินห่างจากปกติ

4. ทำไมใช้ Disk Cleanup ช่วยลดเวลาการ Boot?
Disk Cleanup ช่วยลดเวลาการ Boot โดยกำจัดขยะที่ไม่จำเป็นและลบไฟล์ที่ไม่ได้ใช้งานออกจากระบบ ซึ่งทำให้ระบบบูตเร็วขึ้นได้

5. การปรับแต่งการใช้ไฟงาน (power configuration) ช่วยให้ Windows 10 Boot เร็วขึ้นหรือไม่?
การแลกเปลี่ยนการตั้งค่าการบริหารพลังงาน (power configuration) สามารถช่วยลดเวลาการ Boot ของ Windows 10 และเพิ่มความมั่นคงในการรับส่งพลังงานได้

มี 34 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธี ทํา ให้ คอม เร็ว ขึ้น windows 10 2018.