สมัคร Blockchain: เริ่มต้นรับสมาชิกใหม่ในโลกเทคโนโลยีเเห่งระบบบล็อกเชน

เทคโนโลยี Blockchain: ส่วนประกอบและการทำงาน

เทคโนโลยี Blockchain ก่อตั้งขึ้นมาเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นตัวสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ได้งานวิจัยและพัฒนาอย่างรวดเร็วในปีหลังจากสัญญา ที่มักจะเป็นหัวข้อในสื่อมวลชนและการสัมมนาต่างๆ

ที่มาของ Blockchain อยู่ที่คำนิยามพื้นฐานสองอย่าง คือ “block” ที่แสดงถึงชุดข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมด้วยกันเพื่อสร้างแบบเจลและเชื่อมกันเป็นล๊อคเกือบเสมือนที่กันและ “chain” ที่เป็นลิงก์ของบล็อกทั้งหมดในร่างของ “โครงสร้างข้อมูลข้อความ” องค์กรหรือแอพพลิเคชั่นผู้จัดการด้านเทคโนโลยีเว็บ ออกแบบและโปรแกรมเมอร์ต่างมองเห็นใน blockchain ว่ามันเป็นการเชื่อมโยงของค่าเฉลี่ยข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ใช้เพื่อใช้งานการเคลื่อนย้ายของเหรียญดิจิทัลต่าง ๆ

ในบทนี้จะอธิบายถึงส่วนประกอบหลักของ blockchain และขั้นตอนการทำงานของเทคโนโลยีนี้

ส่วนประกอบหลักของ blockchain:
1. บล็อก: เป็นชุดข้อมูลที่ถูกเก็บรวมกันเพื่อสร้างแบบเจลที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ปกติแล้ว 1 บล็อกมีชุดข้อมูลหลายๆ อย่างที่เชื่อมกันและถูกเก็บรวบรวมและเชื่อมโยงกันผ่านการนำเสนอบทความหรือข้อมูลทางเลขที่ถูกใส่ใน block นั้น

2. เซิร์ฟเวอร์: คอมพิวเตอร์หรือโครงสร้างข้อมูลที่คอยรักษาบล็อกต่างๆ ซึ่งปกติแล้วจะมีหลายๆ คนที่เคยเข้ามาตรวจสอบจำนวนความพร้อมของข้อมูล ปกติแล้วจะกำหนดให้เซิร์ฟเวอร์ที่มีการทำงานที่เป็นขั้นตอนในการกระจายกันเพื่อป้องกันเหตุการณ์การโจมตีสูง (DDoS attacks) และนับถือว่า block ที่มีข้อมูลที่แนบเข้ามาจะถือว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องได้

3. เครือข่ายบล็อก: เมื่อเซิร์ฟเวอร์สร้างบล็อกสามารถส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยังเครือข่ายอื่นๆ ได้ด้วยที่

4. โครงสร้างเวลา: การจัดเก็บเวลาที่เกิดขึ้นในขการเคลื่อนย้าย สามารถทำให้ผู้ใช้ทราบว่าบล็อกได้ถูกสร้างขึ้นด้วยค่าเวลาที่เกิดเหตุการณ์นั้น(จัดให้เป็นรูปแบบ timestamp ได้ที่)

5. การยืนยันการทำงาน: เมื่อสามารถพิสูจน์ได้ว่าบล็อกได้สร้างขึ้นด้วยค่าเวลาที่เหมาะสมกับค่าเวลาที่อยู่ในบล็อกช้ำใหม่ที่สุด เครื่องมือหรือเครื่องมืออื่นๆ อาจมีการผสานในการตรวจสอบคะแนนและการแข่งขันต่อเนื่องจนกว่าบล็อกเกือบทั้งหมดที่เป็นตัวบ่งบอก

การทำงานของเทคโนโลยี Blockchain:
1. ตอนที่ 1: การร้องขอทำธุรกรรม
ผู้ใช้ blockchain ทุกคนที่ต้องการการทำธุรกรรมใหม่ต้องร้องขอให้เพียงผู้อื่นยอมรับทำธุรกรรมของเราแล้ว หรือคนอื่นจะปฏิเสธการทำธุรกรรมใน ณ จุดเดียวกัน

2. ตอนที่ 2: การตรวจสอบและยืนยัน
เครือข่ายบล็อกจะตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูลในบล็อกทั้งหมด ผ่านการนำข้อมูลในบล็อกนั้น ๆ เช็คกลับไปยังบล็อกที่เป็นต้นเพื่อกลับมายืนยันความถูกต้องของข้อมูลก่อนหน้า

3. ตอนที่ 3: การสร้างบล็อกใหม่
หลังจากที่ทำธุรกรรมเสร็จสิ้นแล้ว คนที่ได้เป็นผู้รับมอบหมายให้สร้างบล็อกใหม่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลของการจำกัดโฉนดใหม่ หรือเลือกดำเนินการเชื่อมโยงเพื่อสร้างลึกของข้อมูล บล็อกนั้นทึ่พวกเขาทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่การสร้างทันใด และสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณได้เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลยืนยันแปลว่าคุณเป็น – หากบล็อกเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการรวมข้อมูลอย่างเรียบร้อย

4. ตอนที่ 4: แยกกระจายข้อมูลใหม่
โชราการทำงานนี้เริ่มต้นที่ “บล็อกน็อก” ที่ผู้ใช้ต้องการสร้าง แบบฟอร์มบล็อกสามารถรับด้วยบล็อกท้ายสุดของเกตเวย์ที่สร้างขึ้นช้ากว่าที่ธุรกรรมล์อกน้อยที่สุดอย่างน้อยกว่าที่ 5000 มีหินท้องถิ่นที่สร้างบล็อกข้อมูลให้ระบบรถไฟประเภทเดียวของวอลเลตเป็นผู้ที่ระบุบล็อกและเพื่อป้องกันการเพิ่มข้อมูลเข้าไปในงง เครือข่ายจะต้องเปิดก็เวลาทำงานให้มากที่สุดเท่าที่จะนับได้

การสมัครบัญชี Blockchain: ขั้นตอนและข้อกำหนด

การสมัครบัญชี Blockchain เป็นขั้นตอนที่ง่ายและปลอดภัยในการเข้าถึงเทคโนโลยี blockchain ซึ่งเป็นฐานข้อมูลการทำงานของเครือข่ายบล็อก เพื่อให้เราสามารถมาใช้บริการด้านการเคลื่อนสิทธิ์สินทรัพย์ดิจิทัลหรือการทำการธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัย

ขั้นตอนในการสมัครบัญชี Blockchain มักจะเกี่ยวข้องกับการมีอีเมลและการตั้งรหัสผ่านด้วย

1. เข้าสู่เว็บไซต์ของบล็อกเชน : เพื่อเริ่มกระบวนการสมัครบัญชี Blockchain ให้เราเข้าสู่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนที่เราสนใจ

2. สร้างบัญชีใหม่: หลังจากเข้าสู่เว็บไซต์แล้ว คลิกที่ปุ่ม “ลงทะเบียน”. เราจะต้องระบุข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมล และรหัสผ่าน

3. ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข: อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการให้บริการ แล้วคลิกที่ “ยอมรับ” เพื่อดำเนินต่อไป

4. ยืนยันอีเมล: เมื่อการลงทะเบียนของคุณเสร็จสมบูรณ์ คุณจะได้รับอีเมลยืนยันจากบล็อกเชน. กดลิ้งค์ยืนยันในอีเมลเพื่อการทำรายการต่อไป

5. เข้าสู่ระบบ: ให้ล็อกอินในบัญชีเพื่อได้รับการใช้งานของบล็อกเชน คุณสามารถเลือกกระเป๋าสตางค์เก็บค่าเพิ่มเติมได้หลายประเภทเพื่อเริ่มต้นการใช้งาน

บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร?

บล็อกเชน (Blockchain) คือเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน พวกเขาถือว่าเป็นวิธีใหม่ในการจัดเก็บและแบ่งปันข้อมูลที่มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น

สำหรับความหมายทางธุรกิจ บล็อกเชนเป็นการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายในรูปแบบของบล็อก โดยบล็อกแต่ละอันประกอบด้วยข้อมูลที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติพร้อมกับข้อมูลที่ถูกยืนยันจากบล็อกก่อนหน้า การต่อเข้าด้วยกันได้แบบนี้ทำให้ความเป็นจริงของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในบล็อกเชนง่ายต่อการตรวจสอบ

ในสิ่งที่แตกต่างกันกับเทคโนโลยีทั่วไปคือการจัดเก็บข้อมูลภายในบล็อกเชนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของส่วนกลางหรือผู้ควบคุม แต่แทนที่จะอยู่บนระบบคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์กลาง แต่ข้อมูลในบล็อกเชนจะถูกเก็บไว้หรือแพร่กระจายบนเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่เชื่อมต่อร่วมกัน ดังนั้นจึงสามารถเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่แยกอำนาจยกเว้นผู้ควบคุมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในการบริหารจัดการข้อมูล

เช่นเดียวกับบิตคอยน์ (Bitcoin) ที่เป็นการใช้บล็อกเชนเพื่อจดทะเบียนธุรกรรมการเงิน เทคโนโลยีนี้สามารถใช้ในคุณลักษณะหลากหลายทางด้าน เพื่อช่วยในการตรวจสอบข้อมูล สร้างความน่าเชื่อถือ และลดความล่าช้าในกระบวนการต่างๆ ด้วยความปลอดภัยและความโปร่งใสที่มากขึ้น

การทำงานของบล็อกเชน

บล็อกเชนตำแหน่งหน้าตัวเป็นชุดของบล็อกที่เชื่อมต่อกันแบบเรียงลำดับ แต่ละบล็อกประกอบด้วยข้อมูลและข้อมูลในบล็อกก่อนหน้า ข้อมูลทั้งหมดในบล็อกเชนถูกเข้ารหัสและจัดเก็บในแบบที่เรียกว่า “เรื่องราว” โดยที่แต่ละบล็อกจะได้รับการยืนยันโดยผู้ใช้งานหลายคนในเครือข่าย

เมื่อข้อมูลถูกเก็บไว้ในบล็อกหนึ่งๆ โดยบล็อกนั้นจะถูกเขียนเพิ่มเติมเฉพาะเมื่อยืนยันว่าข้อมูลในบล็อกก่อนหน้านั้นสมบูรณ์และถูกต้องตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงทำให้เกิดความคิดเห็นที่เป็นสิ่งที่ตัดสินใจว่าข้อมูลที่เข้ารหัสและเพิ่มเข้าสู่บล็อกเชนมีความถูกต้องหรือไม่

แต่ละบล็อกจะมีการสร้างเลขบล็อกภายในที่เรียกว่า “แฮช” ซึ่งเป็นสตริงที่คำนวณขึ้นมาจากข้อมูลในบล็อก และสร้างด้วยอัลกอริทึมที่เฉพาะเจาะจง แฮชจะดูเหมือนคล้ายๆ กับลายวาด ซึ่งจะเป็นการกำหนดแต่ละบล็อกแต่ละอัน และเลขแฮชที่เกิดขึ้นจากแต่ละบล็อกของรุ่นก่อนหน้าจะถูกใช้ในการอ้างถึงบล็อกในรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้น

และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีการประมวลผลใดๆ ที่สามารถถูกเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีใครทราบ บล็อกเชนใช้การปิดทับของบอกเชนเอนจิน (Blockchain Engine) ซึ่งสร้างเบื้องต้นและเป็นมติมาในขณะที่ทุกคนในเครือข่ายยอมรับเครื่องหมายนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ถูกต้อง

สิ่งที่น่าสนใจกับบล็อกเชนคือมันไม่สามารถแก้ไขข้อมูลที่อยู่บนบล็อกกลางได้อย่างง่ายดาย หากต้องการทำการเปลี่ยนแปลงบล็อกใดบล็อกหนึ่ง จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในบล็อกทุกอันในรุ่นที่ตามหลังก่อนจึงจะสามารถทำได้อย่างถูกต้อง

มีประโยชน์อะไรที่บล็อกเชนสามารถนำมาใช้ได้บ้าง?

1. ความปลอดภัย: ข้อมูลในบล็อกเชนจะถูกเข้ารหัสและจัดเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่เชื่อมต่อกัน การจัดเก็บแบบนี้ทำให้เราสามารถลดความเสี่ยงจากการแฮกแอคเซสหรือการแก้ไขข้อมูลได้อย่างมาก

2. ความโปร่งใส: ข้อมูลในบล็อกเชนถูกเข้ารหัสและมีการยืนยันโดยถ่ายโอนไปยังเครือข่ายทั้งหมด ทำให้มีความโปร่งใสและทุกคนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้

3. ความเชื่อถือ: การบันทึกข้อมูลในบล็อกเชนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยง่าย เพราะในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจำเป็นต้องเปลี่ยนในบล็อกทุกอันในรุ่นที่ตามหลังก่อนจึงจะสามารถทำอย่างถูกต้องได้ ดังนั้นความน่าเชื่อถือในข้อมูลจึงสูงขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

ค1: บล็อกเชนแตกต่างจากเว็บเซอร์วิสเอนจิน (Web Service Engine) อย่างไร?

ค: บล็อกเชนและเว็บเซอร์วิสเอนจินเป็นเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน บล็อกเชนเป็นการจัดเก็บและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยและโปร่งใส ในขณะที่เว็บเซอร์วิสเอนจินเป็นแพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเชื่อมต่อระบบต่างๆ เพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชันต่างๆ

ค2: บล็อกเชนสามารถใช้ในอุตสาหกรรมใดได้บ้าง?

ค: บล็อกเชนสามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น การเงินและการธนาคาร เชื่อมต่อโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุคและยูทูบ และการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การจัดการเครือข่ายโทรคมนาคม นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การจัดส่งสินค้าและโลจิสติกส์ การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร และอื่นๆ

ค3: การใช้บล็อกเชนทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการต่างๆ อย่างไร?

ค: บล็อกเชนมีความช้าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแบบที่มีการควบคุมกลางหรือแบบเดิม แต่บทนงอนของเทคโนโลยีนี้คือความปลอดภัยและความโปร่งใสที่สูงขึ้น ทำให้คนเลือกที่จะใช้บล็อกเชนเพื่อความถูกต้องและความเชื่อถือในข้อมูลแทนความเร็ว

หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังเกิดความสนใจในปัจจุบัน คือเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่เรียกว่าการเก็บรักษาข้อมูลแบบกระจายในรูปแบบแทบไม่แก้ไขได้ และเป็นการบันทึกและติดตามการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย การบล็อกเชนถูกพัฒนาขึ้นสำหรับใช้งานในสกุลเงินดิจิตอลที่รู้จักกันดีอย่างบิตคอยน์ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์มที่จัดการสกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้ หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงคือเว็บไซต์ www.blockchain.com ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการทำงานกับสกุลเงินดิจิตอลด้วยบริการที่ครอบคลุมและปลอดภัย

การเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ www.blockchain.com login นั้นง่ายและไม่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ให้ผู้ใช้ระบุบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้ด้วย หรือใช้บัญชีของเฟสบุ๊คหรือกูเกิลเพื่อทำการเข้าสู่ระบบได้อีกด้วย สำหรับผู้ใช้อย่างมืออาชีพ สามารถใช้บัญชีฮาร์ดแวร์วอลเล็ต (Hardware Wallet) เพื่อเข้าถึงบัญชีของตนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งอย่างไรก็ตามในบทความนี้จะนำเสนอวิธีการเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ blockchain.com login ด้วยบัญชีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนไว้กับเว็บไซต์เท่านั้น

เพื่อเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ www.blockchain.com login ให้เปิดเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของคุณและป้อน www.blockchain.com ลงในช่องที่อยู่ (URL) ดังภาพตัวอย่าง

เมื่อคุณเข้าสู่เว็บไซต์แล้ว ฉะนั้นคุณสามารถเข้าสู่ระบบได้ด้วยการคลิกที่ปุ่ม “เข้าสู่ระบบ” (Log in) ที่มุมบนขวาของหน้าจอ

หลังจากคลิก “เข้าสู่ระบบ” ระบบจะถามคุณเพื่อป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณ โดยผู้ใช้ควรใส่ที่อยู่อีเมลและรหัสผ่านที่คล้ายคลึงกันที่ลงทะเบียนไว้กับบัญชีผู้ใช้ blockchain.com หากคุณลืมรหัสผ่านแล้ว คุณสามารถกดที่ “ลืมรหัสผ่าน?” (Forgot Password?) เพื่อรับคำแนะนำเพื่อกู้คืนรหัสผ่านของคุณ

หลังจากที่คุณกรอกข้อมูลสำหรับการเข้าสู่ระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะถูกนำไปสู่หน้าต่าง Wallet ของคุณเพื่อเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลของคุณและฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่เว็บไซต์ blockchain.com มีให้บริการ

ในเว็บไซต์ blockchain.com ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือการส่งและรับเงินดิจิตอลผ่านทางอีเมล (Email). ในการที่คุณจะสามารถส่งเงินดิจิตอลผ่านทางอีเมลได้ คุณจะต้องเข้าสู่ระบบก่อนหน้านี้และไปที่การตั้งค่าบัญชีเพื่อเพิ่มที่อยู่อีเมลของคุณ คุณก็จะสามารถใช้ที่อยู่อีเมลนี้ในการส่งเงินดิจิตอลแก่ผู้ใช้งานอื่น ๆ

หลังจากที่คุณได้เข้าสู่ระบบแล้ว คุณยังสามารถเห็นรายละเอียดของบัญชีและประวัติการทำธุรกรรมแต่ละรายการของคุณได้ที่ด้านซ้ายของหน้าจอ Wallet. นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มงานที่คุณสนใจในการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิตอลผ่านเมนู “เรียนรู้” (Learn) ได้อีกด้วย

FAQs:

คำถาม: ฉันลืมรหัสผ่านของฉัน ฉันจะทำอย่างไร?
ตอบ: หากคุณลืมรหัสผ่านของคุณ สามารถคลิกที่ “ลืมรหัสผ่าน?” (Forgot Password?) ที่หน้าเข้าสู่ระบบเพื่อรับคำแนะนำเพื่อกู้คืนรหัสผ่านของคุณ

คำถาม: ฉันสามารถใช้อีเมลของฉันในการส่งเงินดิจิตอลได้อย่างไร?
ตอบ: หลังจากที่คุณเข้าสู่ระบบ ไปที่การตั้งค่าบัญชีและเพิ่มที่อยู่อีเมลของคุณ หลังจากนั้นคุณสามารถใช้ที่อยู่อีเมลนี้ในการส่งเงินดิจิตอลแก่ผู้ใช้งานอื่น ๆ

คำถาม: ฉันสามารถใช้บัญชีฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเพื่อเข้าสู่ระบบได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่คุณสามารถใช้บัญชีฮาร์ดแวร์วอลเล็ตเพื่อเข้าสู่ระบบ blockchain.com login ได้อย่างปลอดภัย

คำถาม: blockchain.com มีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกไหม?
ตอบ: ใช่ผู้ใช้ยังสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิตอลได้ที่เมนู “เรียนรู้” (Learn) ของเว็บไซต์

พบ 45 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สมัคร blockchain.