เข้า Windows ไม่ต้องใส่ Password: กระบวนการเข้าสู่ระบบที่ง่ายและปลอดภัย

เข้าสู่ระบบ Windows โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านเป็นหนึ่งในวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์และวิธีการอื่นๆ ที่ใช้ในการกำหนดค่าการเข้าสู่ระบบเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่เหมาะสม ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการปรับแต่งการเข้าสู่ระบบ Windows โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านและฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่สามารถใช้ได้ในระบบปฏิบัติการ Windows ตั้งแต่ Windows 7 ไปจนถึง Windows 11

1. วิธีการปรับแต่งการเข้าสู่ระบบ Windows โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน
– เปิดหน้าต่าง “Run” โดยพิมพ์ “netplwiz” ในช่องว่างและกด Enter
– ถอดเครื่องหมายที่วงกลมไว้ที่ “กำหนดให้ผู้ใช้งานต้องป้อนชื่อและรหัสผ่าน” แล้วคลิกที่ “ตกลง”
– ป้อนชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านที่ต้องการใช้ในการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
– คลิกที่ “ตกลง” และระบบจะทำการตั้งค่าการเข้าสู่ระบบใหม่โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน

2. การเปิดใช้งานฟีเจอร์เข้าสู่ระบบโดยอัตโนมัติ
– เปิดหน้าต่าง “Run” โดยพิมพ์ “netplwiz” ในช่องว่างและกด Enter
– อยู่ที่แท็บ “รายการผู้ใช้งาน” เลือกผู้ใช้งานที่ต้องการแล้วคลิกที่ “คุณสมบัติ”
– ที่หน้าต่าง “ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ” ถอดเครื่องหมายที่วงกลมไว้ที่ “ต้องการพิมพ์ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน” แล้วคลิกที่ “ตกลง”
– ป้อนรหัสผ่านของผู้ใช้งานและยืนยันรหัสผ่าน
– คลิกที่ “ตกลง” และระบบจะทำการตั้งค่าการเข้าสู่ระบบแบบอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้งานที่เลือก

3. วิธีการปิดการใช้รหัสผ่านในระหว่างเข้าใช้ระบบ Windows
– เปิดหน้าต่าง “Run” โดยพิมพ์ “netplwiz” ในช่องว่างและกด Enter
– ถอดเครื่องหมายที่วงกลมไว้ที่ “กำหนดให้ผู้ใช้งานต้องป้อนชื่อและรหัสผ่าน”
– คลิกที่ “ตกลง”
– ป้อนรหัสผ่านของผู้ใช้งานและยืนยันรหัสผ่าน
– คลิกที่ “ตกลง” และระบบจะไม่ต้องการรหัสผ่านในระหว่างการเข้าสู่ระบบ

4. การกำหนดค่าการเข้าสู่ระบบแบบอัตโนมัติโดยใช้รหัส PIN
– เปิดหน้าต่าง “Settings” ของ Windows และคลิกที่ “Accounts”
– เลือกแท็บ “เข้าสู่ระบบและการรักษาความปลอดภัย”
– ที่หัวข้อ “PIN” คลิกที่ “เพิ่ม” และป้อนรหัส PIN ที่ต้องการ
– ยืนยันรหัส PIN ของคุณ
– คลิกที่ “ตกลง” เพื่อบันทึกการตั้งค่า PIN ของคุณ ตอนนี้คุณสามารถเข้าสู่ระบบ Windows โดยใช้ PIN แทนรหัสผ่าน

5. การใช้ระบบการเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า
– เปิดหน้าต่าง “Settings” ของ Windows และคลิกที่ “Accounts”
– เลือกแท็บ “เข้าสู่ระบบและการรักษาความปลอดภัย”
– ที่หัวข้อ “การตั้งค่าการเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า” เลือกตัวเลือกที่คุณต้องการใช้งาน
– ในกรณีที่คุณเลือกใช้ลายนิ้วมือ ให้คลิกที่ “การสแกนลายนิ้วมือ” เพื่อตั้งค่าการสแกนลายนิ้วมือ
– ในกรณีที่คุณเลือกใช้การสแกนใบหน้า ให้คลิกที่ “การสแกนใบหน้า” เพื่อตั้งค่าการสแกนใบหน้า
– ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อลงทะเบียนลายนิ้วมือหรือใบหน้าของคุณและเพื่อทดสอบความถูกต้อง

6. เปลี่ยนวิธีการเข้าสู่ระบบที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
– เปิดหน้าต่าง “Settings” ของ Windows และคลิกที่ “Accounts”
– เลือกแท็บ “เข้าสู่ระบบและการรักษาความปลอดภัย”
– ที่หัวข้อ “แอพลิเคชันในระบบการเข้าสู่ระบบ” เลือก “ความปลอดภัยขั้นสูง”
– คลิกที่ “ตั้งค่า” เพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆ เช่นการตรวจสอบสำหรับแฮกเกอร์ลอกข้อมูลรหัสผ่าน

7. การตั้งค่าการเข้าสู่ระบบด้วยบัตรหรือโทเค็นอื่นๆ
– เปิดหน้าต่าง “Settings” ของ Windows และคลิกที่ “Accounts”
– เลือกแท็บ “เข้าสู่ระบบและการรักษาความปลอดภัย”
– ที่หัวข้อ “การเชื่อมต่อกับบัตรหรือโทเค็นอื่นๆ” เลือกบัตรหรือโทเค็นที่ต้องการใช้งาน
– ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อเชื่อมต่อและตั้งค่าการใช้งานของบัตรหรือโทเค็น

8. การกำหนดค่าระบบเพื่อป้องกันการเข้าสู่ระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
– เปิดหน้าต่าง “Settings” ของ Windows และคลิกที่ “Accounts”
– เลือกแท็บ “เข้าสู่ระบบและการรักษาความปลอดภัย”
– ที่หัวข้อ “เลือกความปลอดภัยเพิ่มเติม” เลือก “Windows Hello ภายใต้การใช้สิทธิ์การเข้าถึงการเปลี่ยนแปลง宇人”
– ที่หัวข้อ “เปลี่ยนการใช้ความปลอดภัย” เลือกอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่หลายๆ ฟีเจอร์ที่เข้าคู่กันกับการควบคุมการเข้าสู่ระบบ เช่น การใช้รหัส PIN, การสแกนใบหน้าหรือการปิดการใช้รหัสผ่านเมื่อไม่ได้คอมพิวเตอร์ไปสัปดาห์

9. วิธีใช้งานบนอุปกรณ์ที่รองรับการเข้าสู่ระบบโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน
– หากอุปกรณ์ที่คุณใช้รองรับฟีเจอร์ “Windows Hello” หรือคุณมีอุปกรณ์ “Fingerprint Reader” หรือ “Facial Recognition” คุณสามารถตั้งค่าเพื่อให้เข้าสู่ระบบโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน
– ให้ไปที่ “Settings”

เข้า windows 11 ไม่ต้องใส่ password

Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่ถูกเปิดตัวโดยไมโครซอฟท์ในปี 2021 และนับเป็นการอัพเกรดขั้นสูงจาก Windows 10 ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายกัน. โดยแต่ละรุ่นมักจะปรับปรุงด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานอื่นๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม, หนึ่งในสิ่งที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลใน Windows 11 คือ ไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ ทำให้การเข้าใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 11 สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ในรุ่นก่อนหน้า Windows 11, การใส่รหัสผ่านเป็นขั้นตอนที่จำเป็นต้องทำเพื่อความปลอดภัยของระบบ แต่ใน Windows 11 ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีกต่อไป เนื่องจากมีเมนูใหม่ที่เรียกว่า “Windows Hello for passwordless access” ซึ่งเอาท์ของ Windows Hello นั้นเป็นเครื่องมือการรับรู้และยืนยันตัวตนสำหรับให้ผู้ใช้อุปกรณ์ต่างๆ เข้าถึงระบบ โดยไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่าน

วิธีการเข้าใช้งานเข้าหน้า Windows 11 โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน คือ การใช้การรับรู้ใบหน้า (Facial Recognition) หรือการใช้รหัส PIN ของผู้ใช้ร่วมกับ Windows Hello ในการเข้าสู่ระบบ โดยรหัส PIN นั้นเราสามารถตั้งค่าหรือเปลี่ยนแปลงได้ใน “Settings” ของ Windows 11

การตั้งค่าใช้งานรหัส PIN สำหรับผู้ใช้งาน Windows 11 ไม่ต้องใส่รหัสผ่านเข้าสู่ระบบง่ายมาก ๆ โดยเริ่มจากการเปิดหน้า “Settings” ของ Windows 11. เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วให้ค้นหาและคลิกที่ “Accounts” จากนั้นเลือก “Sign-in options” จากเมนูทางด้านซ้ายของหน้าต่าง “Settings”. จากนั้นให้เลือก “Windows Hello PIN” และคลิกที่ “Add” เพื่อเริ่มกระบวนการตั้งค่า PIN

ในหน้าถัดไป, ระบบจะต้องการรับรองตัวตนผู้ใช้ใหม่เพื่อเปิดใช้งาน Windows Hello PIN โดยใช้รหัสผ่านที่เคยใช้ในขั้นตอนก่อนหน้านี้ หากคุณไม่ได้ตั้งรหัสผ่านไว้ก่อนหน้านี้, ให้คลิกที่ “Create a PIN” และปฏิบัติตามคำแนะนำระหว่างกระบวนการ.

หลังจากนั้น, ให้ป้อนรหัสผ่านยืนยันอีกครั้งเพื่อเสร็จสิ้นกระบวนการตั้งค่า PIN ของ Windows Hello. จากนั้น, โดยปกติคุณทำการตั้งค่า PIN จะส่งผลให้คุณสามารถเข้าถึงระบบ Windows 11 ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่รหัสผ่านอีกต่อไป

การใช้ Windows Hello PIN เพื่อเข้าสู่ระบบ Windows 11 นั้นมีความปลอดภัยสูง และสะดวกสบายต่อผู้ใช้งาน Windows Hello ผู้ใช้งานสามารถบันทึก Windows Hello PIN โดยใช้เครื่องมือบันทึกความปลอดภัยในตัว อย่างไรก็ตาม, ควรจำรหัส PIN และรักษาความปลอดภัยของหมายเลข PIN เอาไว้เป็นความลับของคุณเองเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากมีผู้อื่นเข้าถึงอุปกรณ์ของคุณ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ควรตั้ง PIN ของ Windows Hello ให้มีกี่หลัก?
แนะนำให้ใช้ PIN ที่มีความยาว 4 หลัก ขึ้นไป เพื่อความปลอดภัยสูงขึ้น

2. หากลืม PIN ของ Windows Hello จะสามารถดำเนินการตั้งค่าใหม่ได้อย่างไร?
สำหรับการดำเนินการตั้งค่า PIN ใหม่, ให้ไปที่ “Settings” > “Accounts” > “Sign-in options” > “Windows Hello PIN” > “I forgot my PIN” และทำตามคำแนะนำที่ปรากฏบนหน้าจอ

3. Windows Hello มีความปลอดภัยอย่างไร?
Windows Hello ใช้การรับรู้ใบหน้า (Facial Recognition) หรือรหัส PIN ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เช่น TPM (Trusted Platform Module) เพื่อรับรองความปลอดภัยและป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

4. หากฉันใช้ Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่มีการรับรู้ใบหน้า (Facial Recognition) ฉันสามารถใช้ Windows Hello ได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถใช้รหัส PIN เพื่อเข้าสู่ระบบ Windows 11 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้การรับรู้ใบหน้า (Facial Recognition) ที่รองรับ Windows Hello

5. การเข้าใช้ Windows 11 โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่านทำงานกับอุปกรณ์อะไรบ้าง?
Windows 11 ไม่ต้องใส่รหัสผ่านเป็นแบบ Option สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการรับรู้ใบหน้า (Facial Recognition) หรือรหัส PIN กับ Windows Hello อย่างไรก็ตาม, อุปกรณ์ที่ไม่รองรับเทคโนโลยีนี้ยังคงใช้รวมแผ่นคัดสกรีน (Password screen) อยู่เนื่องจากความปลอดภัยและความสะดวกสามารถใช้รหัสผ่านเข้าสู่ระบบได้

วิธี ยกเลิกรหัส คอม Windows 11

Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการใหม่จาก Microsoft ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติและการออกแบบที่ทันสมัยมากขึ้น แต่บางครั้งผู้ใช้อาจต้องการยกเลิกรหัสคอมของ Windows 11 เพื่อรับรหัสใหม่หรือเพื่อปรับแต่งการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้ตรงตามความต้องการส่วนตัวของตน ในบทความนี้เราจะสอนวิธีการที่สามารถยกเลิกรหัสคอม Windows 11 ได้โดยง่ายและปลอดภัย

วิธีที่ 1: ใช้การสร้าง USB boot drive
วิธีแรกที่เราจะกล่าวถึงคือการใช้ USB boot drive เพื่อยกเลิกรหัสคอม Windows 11 ดังนี้

1. ดาวน์โหลดเครื่องมือ Rufus จาก https://rufus.ie/ และติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ
2. เชื่อมต่อ USB ที่มีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 8GB เข้ากับคอมพิวเตอร์
3. เปิด Rufus และเลือก USB drive ที่คุณต้องการสร้างเป็น bootable drive
4. ที่หน้าต่าง “ข้อมูลการดำเนินการ” ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือก “ISO image” และคลิกที่ไฟล์ไอโซที่คุณได้รับจาก Microsoft เมื่อคุณซื้อ Windows 11
5. ตรวจสอบการตั้งค่าในส่วน “การเขียน” ให้ตรงตามที่คุณต้องการและคลิก “เริ่ม”
6. Rufus จะเขียนไฟล์ไอโซลงบน USB drive ของคุณ โปรดจำไว้ว่าข้อมูลบน USB จะถูกลบทั้งหมด ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่มีข้อมูลสำคัญบน drive

หลังจากที่คุณสร้าง USB boot drive เรียบร้อยแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำคือเปิด BIOS หรือ UEFI บนคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อเปลี่ยนลำดับการบูตให้คอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มต้นจาก USB drive ที่คุณสร้างขึ้น ขั้นตอนที่แตกต่างกันอาจมีขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์แต่ละรุ่น โปรดตรวจสอบคู่มือหรือเว็บไซต์ของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ของคุณเพื่อดูขั้นตอนที่ครอบคลุม

หลังจากที่คุณตั้งค่าการบูตจาก USB drive แล้ว คอมพิวเตอร์ของคุณจะเริ่มต้นมาจาก USB boot drive ที่คุณสร้างขึ้น และคุณจะสามารถทำการยกเลิกรหัสคอม Windows 11 ได้โดยติดตามขั้นตอนในหน้าต่างติดตั้งของ Windows

วิธีที่ 2: ใช้การรีเซ็ตการตั้งค่าใหม่
วิธีที่สองที่เราจะพูดถึงคือการใช้การรีเซ็ตการตั้งค่าใหม่ของ Windows 11 ดังนี้

1. เปิด Windows Settings โดยคลิกขวาที่ปุ่ม “Start” และเลือก “Settings”
2. เลือก “System” จากเมนูด้านซ้าย
3. คลิกที่ “Recovery” ในแถบด้านซ้ายมือ
4. ในส่วน “Reset PC” คลิกที่ “Get started”
5. คุณจะได้รับตัวเลือกที่แสดงว่าคุณต้องการที่จะเลือกระดับการรีเซ็ต โปรดคลิกที่ “Keep my files” เพื่อรักษาไฟล์และแอปพลิเคชันที่คุณมีอยู่ หรือคลิกที่ “Remove everything” เพื่อลบข้อมูลทั้งหมดบนเครื่อง
6. คลิกที่ “Next” เพื่อเปิดตัวเลือกการรีเซ็ตคอมพิวเตอร์ของคุณ
7. เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว คลิกที่ “Reset” เพื่อยื่นคำขอยืนยัน
8. รอให้ Windows 11 รีเซ็ตคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่

หลังจากที่ Windows 11 รีเซ็ตคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณจะต้องกำหนดค่าใหม่เหมือนกับการติดตั้ง Windows ใหม่ รวมถึงการตั้งค่าผู้ใช้และสร้างรหัสผ่านใหม่

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

1. การยกเลิกรหัสคอม Windows 11 จะลบข้อมูลของฉันหรือไม่?
– การยกเลิกรหัสคอม Windows 11 จะไม่ลบข้อมูลของคุณ แต่ต้องการคุณเข้าสู่ระบบใหม่ด้วยการตั้งค่าใหม่

2. ฉันจะต้องมี USB boot drive เพื่อยกเลิกรหัสคอมใช่ไหม?
– ไม่จำเป็นต้องใช้ USB boot drive สำหรับวิธีการรีเซ็ตการตั้งค่าใหม่ แต่มันช่วยให้ง่ายต่อการจัดการและแก้ไขปัญหาในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณมีปัญหา

3. การปรับแต่งการใช้งานคอมพิวเตอร์ของฉันจำเป็นต้องยกเลิกรหัสคอมหรือไม่?
– ไม่จำเป็นต้องยกเลิกรหัสคอม Windows 11 เพื่อปรับแต่งการใช้งานคอมพิวเตอร์ การยกเลิกรหัสเป็นตัวเลือกเพื่อความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ที่มีความต้องการเท่านั้น

4. ฉันสามารถยกเลิกรหัสคอมแล้วตั้งรหัสใหม่ใน Windows 11 ได้หรือไม่?
– ใช่ คุณสามารถยกเลิกรหัสคอมและตั้งค่ารหัสผ่านใหม่ใน Windows 11 ได้ โดยใช้ Windows Settings หรือหน้าต่างการติดตั้ง Windows

5. ฉันสามารถยกเลิกรหัสคอม Windows 11 แล้วกลับเข้าระบบเดิมได้หรือไม่?
– การยกเลิกรหัสคอม Windows 11 จะไม่ทำให้คุณกลับเข้าระบบเดิมได้ คุณต้องรีเซ็ตคอมพิวเตอร์ของคุณและตั้งค่าใหม่เหมือนการติดตั้ง Windows ใหม่

วิธีการยกเลิกรหัสคอม Windows 11 เป็นกระบวนการที่สามารถทำได้โดยง่ายและปลอดภัย ให้คุณได้รับความคุ้นเคยกับการใช้งาน Windows 11 ตามความต้องการส่วนตัวของคุณหรือเพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นบนคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ของคุณแนะนำและเฝ้าประสานงานกับ Microsoft เมื่อต้องการความช่วยเหลือในกรณีที่ไม่สามารถยกเลิกรหัสได้

เข้า windows 10 ไม่ได้ ติด password: วิธีแก้ปัญหาและคำถามที่พบบ่อย

เวิร์กสเตชั่นระบบปฏิบัติการ Windows 10 นับเป็นหน้าตาใหม่ที่น่าตื่นเต้นต่อให้แก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่บางครั้งการเข้าใช้งานระบบอาจเกิดปัญหา อย่างเช่นคุณอาจพบปัญหาเข้า Windows 10 ไม่ได้เนื่องจากติดรหัสผ่าน โดยปัญหาดังกล่าวนั้นอาจเกิดขึ้นเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น คุณอาจลืมรหัสผ่านหรือได้สร้างรหัสผ่านใหม่ และอื่นๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่เข้าไม่ได้เนื่องจากรหัสผ่าน Windows 10 และวิธีแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้อง

เหตุผลที่เข้าใช้งาน Windows 10 ไม่ได้เนื่องจากรหัสผ่าน:
1. ลืมรหัสผ่าน: หากคุณลืมรหัสผ่านของคุณ คุณอาจไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Windows 10 ได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถกู้คืนรหัสผ่านของคุณได้โดยใช้หลายวิธี เช่น ใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืน หรือใช้เครื่องมือรีเซ็ตรหัสผ่าน

2. การเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านล่าสุด: คุณอาจพบปัญหาในการเข้าใช้งานในระบบของคุณหากคุณได้เพิ่งเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านมาเมื่อเร็ว ในกรณีนี้ คุณอาจต้องรอสักครู่และลองใหม่อีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไป

3. บัญชีผู้ใช้ถูกระงับ: หากบัญชีผู้ใช้ของคุณถูกระงับ แต่สาเหตุและวิธีแก้ไขจะขึ้นอยู่กับนโยบายความปลอดภัยขององค์กรหรือผู้ดูแลระบบของคุณ

วิธีแก้ปัญหา:

1. ใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืน: หากคุณลืมรหัสผ่านของคุณ วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืน โดยเพียงแค่คลิกลิงก์ “ลืมรหัสผ่าน?” ที่หน้าจอเข้าสู่ระบบ คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการกู้คืนรหัสผ่านผ่านทางอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนกับบัญชี Microsoft ของคุณ

2. ใช้เครื่องมือรีเซ็ตรหัสผ่าน: หากคุณไม่สามารถใช้บัญชี Microsoft ล็อกอินได้ด้วยสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง คุณยังสามารถใช้เครื่องมือรีเซ็ตรหัสผ่านได้ วิธีนี้คือการใช้ไฟล์ระบบของคอมพิวเตอร์ของคุณในการรีเซ็ตรหัสผ่าน ในกรณีนี้คุณจะต้องมีดิสก์ระบบ Windows 10 แล้วคลิก “เริ่มต้น” และเลือก “เปลี่ยนรหัสผ่าน” หรือ “รหัสผ่านลืม”

3. ติดต่อผู้ดูแลระบบ: หากคุณไม่ได้ดูแลระบบของคุณเอง คุณอาจต้องติดต่อผู้ดูแลระบบเพื่อขอความช่วยเหลือในการรีเซ็ตรหัสผ่าน

คำถามที่พบบ่อย:

1. ทำไมฉันถึงไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Windows 10 ได้?
มีหลายสาเหตุที่ทำให้คุณไม่สามารถเข้าสู่ระบบ Windows 10 ได้ อาทิเช่นคุณอาจมีรหัสผ่านที่ผิดหรือได้เปลี่ยนรหัสผ่านล่าสุด หรือบัญชีผู้ใช้ของคุณอาจถูกระงับ

2. ฉันจะกู้คืนรหัสผ่าน Windows 10 ได้อย่างไร?
มีหลายวิธีในการกู้คืนรหัสผ่าน Windows 10 อย่างไรก็ตาม วิธีที่ง่ายที่สุดคือใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืน คุณสามารถคลิกลิงก์ “ลืมรหัสผ่าน?” บนหน้าจอเข้าสู่ระบบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน

3. หากฉันไม่มีบัญชี Microsoft ทำไง?
หากคุณไม่มีบัญชี Microsoft คุณยังคงสามารถใช้เครื่องมือรีเซ็ตรหัสผ่านได้ จงทำตามคำแนะนำของเราเพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านของคุณผ่านทางไฟล์ระบบของคอมพิวเตอร์

4. ฉันสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านของฉันได้อย่างไร?
เพื่อป้องกันการลืมรหัสผ่านอีกครั้ง คุณสามารถเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านของคุณได้ โดยคลิกที่ “เริ่มต้น” และเลือก “การตั้งค่า” จากนั้นเลือก “บัญชี” และ “เปลี่ยนรหัสผ่าน”

ในสรุป การเข้าใช้งาน Windows 10 อาจพบปัญหาเนื่องจากรหัสผ่าน แต่คุณสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้โดยใช้บัญชี Microsoft เพื่อกู้คืนหรือใช้เครื่องมือรีเซ็ตรหัสผ่าน กรณีนี้ความจำเป็นคือรหัสผ่านที่แข็งแกร่งและการบำรุงรักษาให้คำปรึกษาในการเข้าสู่ระบบ Windows 10 โดยไม่กำหนดให้เกิดปัญหา

พบ 39 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เข้า windows ไม่ต้องใส่ password.