เซฟไฟล์ Pdf ไม่ได้
การเซฟไฟล์ PDF ไม่สามารถเพิ่มไฟล์ PDF ให้กับเอกสารที่สร้างขึ้นในบางกรณีอาจทำให้คุณเปิดเอกสารได้ แต่ไม่สามารถเซฟสำเนาหรือไฟล์ใหม่ที่ได้รับการแก้ไขเข้าไปใน PDF ได้ ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุเช่นหน่วยความจำไม่เพียงพอหรือตัวโปรแกรม PDF มีข้อผิดพลาด ในบทความนี้จะอธิบายสาเหตุและวิธีแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเซฟไฟล์ PDF ไม่ได้.
1. สาเหตุที่เซฟไฟล์ PDF ไม่ได้
1.1 ขนาดของไฟล์: ไฟล์ PDF ที่มีขนาดใหญ่อาจจะไม่สามารถเซฟได้ สำหรับไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ คุณควรลองบีบอัดไฟล์ด้วยโปรแกรมอื่นเพื่อลดขนาดของไฟล์ก่อนเซฟไฟล์ใหม่อีกครั้ง
1.2 อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเสียหาย: หากเอกสาร PDF อยู่ในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เสียหาย เช่นฮาร์ดดิสก์เสียหายหรือการ์ด SD เสียหาย คุณจะไม่สามารถเซฟไฟล์ PDF ได้ ในกรณีนี้ คุณต้องซ่อมแซมหรือแทนที่อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเพื่อดึงข้อมูล PDF ออกมา
1.3 โปรแกรม PDF ไม่ทำงานถูกต้อง: โปรแกรม PDF อาจมีข้อผิดพลาดหรือไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ หากคุณใช้แอปพลิเคชันเบราว์เซอร์ในการเปิดเอกสาร PDF คุณควรลองใช้โปรแกรม PDF เพื่อเซฟไฟล์ใหม่
2. วิธีแก้ไขปัญหาเซฟไฟล์ PDF ไม่ได้
2.1 ลองเปลี่ยนชื่อไฟล์: ในบางกรณี ปัญหาของการเซฟไฟล์ PDF อาจเกิดจากชื่อไฟล์ที่มีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์พิเศษ ลองเปลี่ยนชื่อไฟล์เป็นชื่อที่ไม่มีตัวอักษรพิเศษ และลองเซฟไฟล์อีกครั้ง
2.2 ลองเปลี่ยนตำแหน่งเซฟไฟล์: บางครั้งเซฟไฟล์ PDF อาจไม่สามารถเขียนไปยังตำแหน่งบนระบบได้ ลองเปลี่ยนตำแหน่งเซฟไฟล์ไปยังโฟลเดอร์หรือไดเร็กทอรี่อื่นบนดิสก์หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
2.3 ลองเซฟเป็นรูปแบบอื่น: ถ้าคุณยังไม่สามารถเซฟไฟล์ PDF ให้กับโฟลเดอร์หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลได้ ลองเซฟเป็นรูปแบบอื่นเช่น DOCX (สำหรับเอกสาร Word) หรือ XLSX (สำหรับเอกสาร Excel) และหลังจากนั้นลองแปลงเป็น PDF ใหม่
3. การตรวจสอบไฟล์ PDF สำหรับความไม่สมบูรณ์
แม้ว่าไฟล์ PDF ที่คุณเซฟได้จะเปิดและถูกต้องภายในโปรแกรมเพื่องานอื่น ๆ อาจเกิดปัญหาที่จะทำให้ข้อมูลไม่สมบูรณ์หรือขาดหายไปบางส่วน ในกรณีนี้คุณควรตรวจสอบไฟล์ PDF เพื่อให้แน่ใจว่ามันถูกต้อง
3.1 ตรวจสอบการเปิดไฟล์: ลองเปิดไฟล์ PDF ในโปรแกรม PDF ที่แตกต่างกัน หากไฟล์เปิดไม่ถูกต้องในโปรแกรม PDF ที่แตกต่างกัน อาจมีปัญหากับไฟล์ PDF เอง
3.2 ตรวจสอบขนาดไฟล์: ในบางกรณี ไฟล์ PDF อาจถูกส่งเข้ามาหรือดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตในรูปแบบที่ไม่สมบูรณ์ ตรวจสอบขนาดของไฟล์ และตรวจสอบไฟล์ให้มั่นใจว่าข้อมูลยังคงไม่ได้รับการเพิ่มเติมหรือแก้ไขด้วยโปรแกรมที่ไม่เหมาะสม
4. การตรวจสอบความเข้ากันได้ของโปรแกรม PDF
โปรแกรม PDF มีการอัปเดตและมีเวอร์ชันต่าง ๆ ออกมาเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับไฟล์ PDF แนะนำว่าคุณควรใช้เวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรม PDF เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีการดูแลอัปเดตและปรับปรุงที่สม่ำเสมอ
5. การตรวจสอบข้อจำกัดของระบบปฏิบัติการ
บางครั้ง ปัญหาการเซฟไฟล์ PDF อาจเกิดจากระบบปฏิบัติการที่ไม่รองรับรูปแบบไฟล์ PDF หรือไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง คุณควรตรวจสอบระบบปฏิบัติการและตรวจสอบภายในเพื่อดูว่ามีการจำกัดที่เกี่ยวข้องกับการเซฟไฟล์ PDF หรือไม่
6. การอัปเดตโปรแกรม PDF เพื่อแก้ไขปัญหา
แม้ว่าซอฟต์แวร์ PDF จะไม่ได้รับการอัปเดตเท่ากับโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้บ่อย คุณควรอัปเดตโปรแกรม PDF เป็นรุ่นล่าสุดเพื่อป้องกันปัญหาการเซฟไฟล์ PDF ในอนาคต
7. การตรวจสอบความปลอดภัยของไฟล์ PDF
คุณควรใส่ใจในความปลอดภัยของไฟล์ PDF เพื่อป้องกันการถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการดัดแปลงข้อมูลที่ไม่เหมาะสม คุณสามารถสร้างรหัสผ่านป้องกันการเปิดเอกสาร PDF หรือใช้ฟีเจอร์การลากและวางของโปรแกรม PDF เพื่อป้องกันการคัดลอกไฟล์
8. การใช้เครื่องมือการกู้คืนข้อมูลสำหรับไฟล์ PDF ที่เสียหาย
หากไฟล์ PDF ที่คุณต้องการเซฟถูกเสียหายหรือสูญหาย คุณอาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือการกู้คืนข้อมูลเพื่อกู้คืนไฟล์ PDF ที่เสียหาย มีบริษัทสื่อสารข้อมูลที่ให้บริการให้ความช่วยเหลือในการกู้คืนข้อมูล
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
Q1: สามารถแก้ไขไฟล์ PDF ที่ไม่สามารถเซฟได้ได้อย่างไร?
A1: คุณสามารถลองแก้ไขไฟล์ PDF โดยเปลี่ยนรูปแบบไฟล์เป็นรูปแบบอื่น เช่น DOCX หรือ XLSX แล้วแปลงเป็น PDF ใหม่
Q2: มีวิธีไหนที่จะเซฟไฟล์ PowerPoint เป็น PDF ได้หรือไม่?
A2: คุณสามารถใช้คำสั่ง “ส่งออก” หรือ “สร้าง PDF” ในโปรแกรม PowerPoint เพื่อเซฟไฟล์ PowerPoint เป็น PDF
Q3: เมื่อฉันพยายามบันทึกไฟล์ Excel เป็น PDF มันไม่สามารถทำได้เลย มีวิธีแก้ไขอะไรบ้าง?
A3: ลองเพิ่มอุปกรณ์จัดเก็บข
การแก้ไขปัญหาการเซฟ Word เป็น Pdf ไม่ได้
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: เซฟไฟล์ pdf ไม่ได้ windows 10 save pdf ไม่ได้, เซฟ powerpoint เป็น pdf ไม่ได้, excel บันทึกเป็น pdf ไม่ได้, word 2007 save pdf ไม่ได้, ป ริ้น PDF ไม่ได้ ให้ save, word เซฟ pdf ไม่ได้ mac, บันทึก excel 2010 เป็น pdf ไม่ได้, บันทึก word เป็น pdf ไม่เพี้ยน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เซฟไฟล์ pdf ไม่ได้
หมวดหมู่: Top 57 เซฟไฟล์ Pdf ไม่ได้
ทำไมเปิดไฟล์ Pdf ไม่ได้
PDF หรือ Portable Document Format เป็นรูปแบบของไฟล์ที่ทั้งสื่อและสามารถถูกเปิดอ่านได้อย่างง่ายดายบนหลายแพลตฟอร์ม เปิดไฟล์ PDF ไม่ได้ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากหลายสาเหตุทั้งจากปัญหาในตัวไฟล์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์หรือโปรแกรมที่ใช้ในการเปิดไฟล์ ในบทความนี้เราจะสำรวจสาเหตุที่อาจทำให้คุณไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้และวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
สาเหตุที่ 1: ไฟล์ PDF เสียหาย
สาเหตุที่หนึ่งที่ทำให้คุณไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้คือไฟล์ PDF เองอาจเสียหาย สามารถเป็นไปได้ในสถานการณ์ที่ไฟล์ถูกสร้างขึ้นจากการเข้ารหัสผู้ใช้หรือการการแปลงแบบเอกสารอื่น เช่น Word หากไฟล์ นั้นเสียหายหรือเข้ารหัสไม่ถูกต้อง อาจทำให้ไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้ ในกรณีที่พบปัญหานี้ คุณสามารถลองเปิดไฟล์ในโปรแกรม PDF อื่นๆ เช่น Adobe Acrobat Reader เพื่อดูว่าปัญหายังคงอยู่หรือไม่ และหากยังคงมีปัญหาคุณอาจต้องขอไฟล์ PDF ใหม่จากผู้สร้างไฟล์
สาเหตุที่ 2: โปรแกรม PDF ไม่ได้รับการอัปเดต
โปรแกรมอ่าน PDF ของคุณอาจไม่ได้รับการอัปเดตเป็นระยะเวลานานและเกิดความไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้อย่างถูกต้องในบางกรณี หากคุณพบปัญหานี้ คุณควรพิจารณาอัปเดตโปรแกรมอ่าน PDF ของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุด แนะนำให้คุณตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้พัฒนาโปรแกรมเพื่อดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดของโปรแกรม
สาเหตุที่ 3: ปัญหากับไฟล์ PDF ที่มีพื้นที่หน่วยความจำน้อย
ในบางครั้ง เราอาจพบปัญหาระหว่างเปิดไฟล์ PDF ที่มีขนาดใหญ่ หรือไฟล์ที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อน เช่นเอกสารที่มีภาพหรือไฟล์สื่อรวมอยู่ภายใน เนื่องจากหน่วยความจำที่ใช้อาจไม่เพียงพอในการโหลดข้อมูลทั้งหมด ทำให้เปิดไฟล์ PDF ล้มเหลวหรือใช้เวลานานขึ้น ในกรณีนี้ คุณสามารถลองใช้โปรแกรมอ่าน PDF ที่มีการจัดการหน่วยความจำอย่างเหมาะสม หรือลองใช้เครื่องมือออนไลน์ที่สามารถแปลงไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่น เช่น Word หรือรูปภาพ เพื่อเรียกดูเนื้อหาได้
สาเหตุที่ 4: ไฟล์ PDF มีการแสดงผลที่ผิดพลาด
บางครั้งไฟล์ PDF อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผล อาจเป็นเพราะไฟล์ PDF สร้างโดยใช้โปรแกรมที่ไม่เข้ากันได้กับโปรแกรมที่คุณใช้ในการเปิดไฟล์ หรือบางครั้งก็เกิดจากรูปแบบไฟล์อื่นที่การแปลงเป็น PDF ไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ คุณสามารถลองเปิดไฟล์ PDF ในโปรแกรมอ่าน PDF อื่น ๆ เพื่อดูว่าปัญหายังคงอยู่หรือไม่ หากปัญหายังคงถูกต้องคุณอาจต้องขอไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่น เช่น JPEG หรือ PNG จากผู้สร้างไฟล์
FAQs:
1. ทำไมฉันไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้?
มีหลายสาเหตุที่จะทำให้คุณไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้ อาจเป็นเพราะไฟล์เสียหาย โปรแกรมอ่าน PDF ไม่ได้รับการอัปเดต ไฟล์มีขนาดใหญ่เกินไปหรือมีเนื้อหาที่ซับซ้อน หรือไฟล์มีการแสดงผลที่ผิดพลาด คุณควรลองแก้ไขปัญหาโดยลองใช้โปรแกรมอ่าน PDF อื่นๆ หรือแปลงไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่น เช่น Word หรือรูปภาพ
2. ทำไมฉันไม่สามารถอัปเดตโปรแกรมอ่าน PDF ได้?
หากคุณไม่สามารถอัปเดตโปรแกรมอ่าน PDF ได้ อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากให้บริการอัปเดตไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนั้น หรือคุณอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนโปรแกรมอ่าน PDF เป็นโปรแกรมที่รองรับการอัปเดตและรับประกันความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการของคุณ
3. สามารถแปลงไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่นได้หรือไม่?
ใช่ เครื่องมือออนไลน์หลายแห่งประสานงานที่สามารถแปลงไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่นได้ เช่น Word, Excel, JPEG, PNG ซึ่งอาจช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเนื้อหาและแก้ไขไฟล์ได้ง่ายขึ้น
4. มีทางไหนที่ฉันสามารถแบ่งปันไฟล์ PDF กับผู้อื่นได้ไหม?
ใช่ เครื่องมือออนไลน์หลายแห่งช่วยให้คุณสามารถแบ่งปันไฟล์ PDF กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถสร้างลิงก์แชร์ไฟล์ PDF หรือส่งไฟล์ให้ผู้รับผ่านอีเมลได้
ในสรุป การที่เราไม่สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้อาจมีหลายสาเหตุ เช่น ไฟล์เสียหาย โปรแกรมอ่าน PDF ไม่ได้รับการอัปเดต ขนาดไฟล์ใหญ่เกินไปหรือที่มีเนื้อหาที่ซับซ้อน หรือการแสดงผลที่ผิดพลาด หากเราพบปัญหานี้ เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้โปรแกรมอ่าน PDF ที่อัปเดต การแปลงไฟล์เป็นรูปแบบอื่น ๆ หรือการแบ่งปันไฟล์ PDF กับคนอื่นเพื่อให้พวกเขามีโอกาสในการเรียกดูและแก้ไขไฟล์
ทํายังไงให้ไฟล์ Pdf แก้ไขได้
ไฟล์ PDF (Portable Document Format) เป็นรูปแบบข้อมูลที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในการแสดงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้เอกสารเก็บรักษารูปแบบเดียว ไม่สามารถแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราอาจต้องการแก้ไขเนื้อหาในไฟล์ PDF เพื่อให้เข้ากับการใช้งานหรือการแชร์ข้อมูลกับผู้อื่นได้ วันนี้เราจะพูดถึงวิธีการแก้ไขไฟล์ PDF ให้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เราสามารถแก้ไขเนื้อหาในไฟล์ PDF เองได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ที่ใช้สร้างไฟล์ PDF เดิม
วิธีการแก้ไขไฟล์ PDF แบบง่ายๆ
1. ใช้โปรแกรมแปลงไฟล์ PDF เป็นรูปแบบอื่นรองรับการแก้ไข: วิธีนี้เหมาะสำหรับเอกสารที่ไม่จำเป็นต้องเก็บรักษารูปแบบเดียวกัน เราสามารถใช้โปรแกรมอื่นๆ เช่น Microsoft Word, Google Docs, LibreOffice Writer เป็นต้น ให้เปิดไฟล์ PDF ด้วยโปรแกรมที่สะดวกสำหรับคุณ ดรากแล้วบันทึกเอกสารไฟล์ในรูปแบบที่สามารถแก้ไขได้ เช่น DOC, DOCX, ODT
2. ใช้โปรแกรมแก้ไข PDF ออนไลน์: มีบริการออนไลน์ที่สามารถแปลงและแก้ไขไฟล์ PDF ได้อย่างง่ายดาย ถ้าคุณไม่ต้องการดาวน์โหลดและติดตั้งตัวโปรแกรม ลองหาเว็บไซต์ที่ให้บริการนี้ เช่น SmallPDF, PDF2Go, Adobe Acrobat Online เพียงเปิดเว็บไซต์ อัปโหลดไฟล์ PDF และทำการแก้ไขตามต้องการ บางเว็บไซต์นี้ที่มีบริการเสริมอาจเสียค่าบริการ ดังนั้น ให้ตรวจสอบก่อนที่จะใช้บริการ
3. ใช้โปรแกรมแก้ไข PDF บนเครื่องคอมพิวเตอร์: หากคุณต้องการตัวเลือกที่ได้ตั้งค่ามากขึ้น และอยากมีความยืดหยุ่นในการแก้ไขไฟล์ PDF คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมแก้ไข PDF ได้ เช่น Adobe Acrobat Reader DC, Nitro Pro, Foxit PhantomPDF, PDF-XChange Editor เป็นต้น โปรแกรมเหล่านี้จะมีฟังก์ชันการแก้ไข PDF ต่างๆ เช่น แก้ไขเนื้อหาใน PDF, เพิ่มหรือลบข้อมูล, เซฟและส่งอินเตอร์แอคทีฟพร็อพเพอร์ติส
ฟรีความบางครั้งก็ไม่เสมอใช่ไหม? บางครั้งคุณอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการแก้ไขไฟล์ PDF ต่อไปนี้เป็นคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่อาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ:
คำถามที่ 1: การแก้ไขไฟล์ PDF ด้วยโปรแกรมอื่น เมื่อเอกสารนั้นมีรูปแบบที่ซับซ้อนหรือต้องการความแม่นยำในการกำหนดรูปแบบ มันจะยากขึ้นอีกไหม?
คำตอบ: ความยากจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเอกสารและโปรแกรมที่คุณใช้ เนื่องจากไฟล์ PDF มีโครงสร้างที่ซับซ้อน การแก้ไขส่วนที่มีตัวอักษรเพียงเล็กน้อยอาจง่ายกว่า แต่ถ้าคุณต้องการแก้ไขเพิ่มเติมเช่น เปลี่ยนตัวหนังสือ รูปแบบข้อความ หรือกราฟิก อาจจะต้องใช้เวลาและความชำนาญในการทำ
คำถามที่ 2: คืออะไรที่ควรพิจารณาเมื่อใช้บริการออนไลน์เพื่อแก้ไขไฟล์ PDF?
คำตอบ: ให้คำนึงถึงอย่างไรก็ตามว่าเว็บไซต์ที่ใช้งานมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ดีและปลอดภัย โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์มีการเข้ารหัสข้อมูลและมีการทำสำเนาข้อมูลหลังจากการประมวลผลเสร็จสิ้น
คำถามที่ 3: บางครั้งคุณอาจพบปัญหาเมื่ออัปโหลดไฟล์ PDF ลองทำอย่างง่ายๆ คือ?
คำตอบ: ลองทำการรีเฟรชหน้าเว็บ ลบแคชที่เก็บไว้ในเบราว์เซอร์ หรือลองใช้เบราว์เซอร์อื่นๆ เพื่ออัปโหลดไฟล์ PDF อีกครั้ง. อย่าลืมตรวจสอบขนาดไฟล์ที่อัปโหลด เพราะบางเว็บไซต์อาจมีข้อจำกัดในการอัปโหลดขนาดไฟล์
การแก้ไขไฟล์ PDF นั้นสามารถทำได้แบบง่าย อย่างไรก็ตามควรคำนึงถึงความซับซ้อนของเอกสารและเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมตามความต้องการ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้โปรแกรมออนไลน์หรือโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์
ดูเพิ่มเติมที่นี่: vungtaulocalguide.com
Windows 10 Save Pdf ไม่ได้
ในปัจจุบันนี้ การสร้างและแชร์เอกสารแบบไฟล์ PDF เป็นที่เป็นที่นิยมอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญสำหรับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป และนักธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง และเพื่อให้ผู้ใช้งาน Windows 10 สามารถบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้อย่างรวดเร็วและง่าย แต่บางครั้งผู้ใช้งานอาจพบปัญหาบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถบันทึกเอกสารแบบ PDF ได้ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงปัญหา Windows 10 Save PDF ไม่ได้และวิธีการแก้ไขหรือแก้ไขปัญหาเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อ่านต่อเพื่อเรียนรู้สิ่งที่คุณต้องรู้ในการแก้ปัญหานี้!
วิธีการแก้ไขปัญหา Windows 10 Save PDF ไม่ได้
1. ตรวจสอบการอัปเดตของระบบปฏิบัติการ: ก่อนอื่นคุณควรตรวจสอบว่า Windows 10 ของคุณได้รับการอัปเดตล่าสุดหรือไม่ ในบางครั้งปัญหานี้สามารถแก้ได้โดยการติดตั้งอัปเดตที่กำหนดใหม่ โดยเรียกใช้ Windows Update และติดตั้งการอัปเดตทั้งหมดที่มีอยู่
2. ตรวจสอบการตั้งค่าพิมพ์เป็น PDF: ในบางครั้งการบันทึกเอกสารเป็น PDF สามารถเรียกใช้ได้โดยใช้คุณสมบัติ “พิมพ์เป็น PDF” ของ Windows 10 คุณสมบัตินี้อาจถูกปิดใช้งานหรือไม่เปิดใช้อยู่ในเครื่องของคุณ ในการตรวจสอบว่าคุณสามารถใช้งานออปชันนี้ได้ คุณสามารถเปิดหน้าไฟล์หรือดีไซน์การพิมพ์ของ Windows 10 และตรวจสอบว่า “พิมพ์เป็น PDF” ได้รับเลือกหรือไม่
3. เปลี่ยนตำแหน่งของเอกสาร: หากคุณพบปัญหาเมื่อพยายามบันทึกไฟล์เป็น PDF คุณอาจต้องเปลี่ยนตำแหน่งของเอกสารไปยังที่อื่นที่มีสิทธิ์เขียนได้หรือไม่ ในบางครั้งคุณอาจไม่สามารถบันทึกได้ในโฟลเดอร์หรือไดเรกทอรีปัจจุบันที่คุณกำลังพยายามบันทึก ลองเปลี่ยนปลายทางบันทึกของคุณไปยังโฟลเดอร์หรือไดเรกทอรีอื่นที่คุณสามารถเขียนได้
4. เปิดใช้งานคุณสมบัติ Microsoft Print to PDF: ในบางครั้งคุณอาจไม่สามารถบันทึกเอกสารแบบ PDF เพราะไม่ได้เปิดใช้งานคุณสมบัติ Microsoft Print to PDF ผู้ใช้ Windows 10 สามารถเปิดใช้งานคุณสมบัตินี้ได้โดยไปที่ “Control Panel” และค้นหา “Devices and Printers” เมื่อคุณเปิดหน้าต่างนี้คุณสามารถค้นหา “Microsoft Print to PDF” และคลิกขวาที่โปรแกรมนี้เพื่อเลือก “Set as default printer” เมื่อคุณทำเช่นนั้น คุณควรลองบันทึกเอกสารเป็น PDF อีกครั้ง
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q1: ทำไมฉันไม่สามารถบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้ใน Windows 10?
A1: ยังมีสาเหตุหลายอย่างที่อาจทำให้คุณไม่สามารถบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้บน Windows 10 เช่นการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง, ปัญหาแกนพิมพ์, หรือค่าเริ่มต้นที่ไม่ถูกต้องสำหรับคุณสมบัติ Microsoft Print to PDF เป็นต้น แต่คุณสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ด้วยวิธีการที่ได้กล่าวถึงในบทความนี้
Q2: วิธีการตรวจสอบรุ่นของ Windows 10 ว่าเป็นเวอร์ชันล่าสุดหรือไม่?
A2: เพื่อตรวจสอบเวอร์ชัน Windows 10 ของคุณ คุณสามารถทำได้โดยการเปิดหน้าต่าง “Settings” และเลือก “System” จากนั้นเลือก “About” ที่แถบด้านซ้าย ในส่วนนี้คุณจะพบข้อมูลเกี่ยวกับรุ่น หรือเวอร์ชัน Windows 10 ที่คุณใช้งานอยู่
Q3: มีวิธีใดที่สามารถบันทึกเอกสารเป็น PDF ได้โดยไม่ใช้คุณสมบัติ Windows 10?
A3: ใช่, มีวิธีอื่น ๆ ที่คุณสามารถใช้เพื่อบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้ หนึ่งในวิธีที่พบบ่อยคือการใช้โปรแกรม PDF printer หรือโปรแกรมสร้าง PDF ที่สามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณสามารถค้นหาโปรแกรมดังกล่าวได้ทางอินเทอร์เน็ตและดาวน์โหลดติดตั้งเพื่อใช้งาน
เซฟ Powerpoint เป็น Pdf ไม่ได้
วิธีการเซฟ PowerPoint เป็น PDF ตามปกติ
ถ้าคุณต้องการเซฟไฟล์ PowerPoint เป็น PDF โดยปกติ คุณสามารถทำได้ผ่านทางเมนู “ไฟล์” และเลือก “บันทึกเป็น PDF” หรือ “ส่งออกเป็น PDF” ที่ส่วน “บันทึกและส่งออก” ของ PowerPoint รุ่นใหม่เช่น 2010 หรือ 2013 ดังต่อไปนี้:
1. เปิดบน PowerPoint และเลือกไฟล์ที่ต้องการแปลงเป็น PDF
2. คลิกที่เมนู “ไฟล์” บนแถบเมนูทางบน
3. เลือก “บันทึกเป็น PDF” หรือ “ส่งออกเป็น PDF” ภายใต้ส่วน “บันทึกและส่งออก”
4. เลือกตำแหน่งที่คุณต้องการบันทึกไฟล์ PDF และคลิก “บันทึก”
5. PowerPoint จะพร้อมที่จะแปลงไฟล์ PowerPoint เป็น PDF และเปิดตัวอ่าน PDF โปรแกรมเลย
คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าการเซฟ PDF เพื่อรองรับความต้องการของคุณโดยตรงผ่านทางหน้าต่าง “บันทึกเป็น PDF” ซึ่งจะปรากฎขึ้นหลังจากคุณเลือก “บันทึกเป็น PDF” การปรับแต่งที่พบบ่อยในการเซฟ PowerPoint เป็น PDF ได้แก่การเลือกขนาดกระดาษของ PDF เป็นอย่างมาก การเปิดการเชื่อมต่อแบบลิงก์ใน PDF หรือการตั้งรหัสผ่านข้อความใน PDF
แม้ว่าวิธีการนี้จะเป็นทางเลือกที่คุณควรลองก่อน แต่ก็อาจเกิดปัญหาบางอย่างในกรณีที่คุณพบเอกสาร PowerPoint ที่ต้องการแปลงเป็น PDF มีเนื้อหาที่ซับซ้อนและไฟล์ที่ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีฟอร์แมทที่ไม่รองรับการแปลงได้อย่างถูกต้อง ในกรณีเหล่านี้คุณสามารถใช้วิธีการอื่นที่ให้คุณสะดวกมากขึ้น
วิธีการแก้ปัญหาเซฟ PowerPoint เป็น PDF
1. ใช้ Adobe Acrobat
หากคุณพบปัญหาในการส่งออก PowerPoint เป็น PDF คุณสามารถใช้โปรแกรม Adobe Acrobat Professional เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เปิด PowerPoint และเลือก “ปรับแต่ง PDF ด้วย Adobe Acrobat” ในเมนู Adobe Acrobat ซึ่งจะเปิด Adobe Acrobat แบบบริติช เพื่อจัดการกับไฟล์ PDF ที่ให้คุณแปลงมา
2. ใช้โปรแกรมอื่น ๆ
นอกเหนือจาก Adobe Acrobat คุณยังสามารถใช้โปรแกรมอื่น ๆ ที่มีสถานศึกษาจำกัดในการแปลงไฟล์ PowerPoint เป็น PDF ได้ ตัวอย่างเช่นคุณสามารถใช้โปรแกรมผู้สร้าง PDF อื่น ๆ เช่น PrimoPDF หรือ NitroPDF ที่จะช่วยให้คุณแปลงไฟล์ได้อย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ
3. ใช้ Google Slides
หากคุณมีบัญชี Google คุณสามารถใช้ Google Slides เป็นตัวช่วยในการแปลงไฟล์ PowerPoint เป็น PDF ได้ ให้คุณเปิดไฟล์ PowerPoint บน Google Slides จากนั้นคุณสามารถส่งออกไฟล์นั้นเป็น PDF ได้ตามปกติ
4. ใช้การแปลงออนไลน์
นอกจากนี้คุณยังมีตัวเลือกการแปลงออนไลน์ที่คุณสามารถใช้ได้ บริการออนไลน์จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์บนคอมพิวเตอร์ของคุณ ในบางกรณีคุณอาจต้องอัพโหลดไฟล์ PowerPoint เพื่อแปลงเป็น PDF โดยใช้บริการออนไลน์ เว็บไซต์ที่รู้จักดีเช่น Smallpdf หรือ Online2PDF จะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการแปลงออนไลน์
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมฉันไม่สามารถเซฟ PowerPoint เป็น PDF ได้?
– อาจเป็นเพราะไม่มีโปรแกรม Adobe Acrobat ที่ติดตั้งในเครื่องของคุณ หรือการติดตั้งคุณลักษณะที่ไม่รองรับการแปลงไฟล์เป็น PDF ลองติดตั้งโปรแกรมที่สามารถเปิด PDF ได้หรืออัพเดต PowerPoint สู่รุ่นล่าสุด
2. ฉันมี PowerPoint รุ่นเก่า ฉันสามารถแปลงเป็น PDF ได้หรือไม่?
– ใช่ คุณยังสามารถใช้วิธีการเซฟเป็น PDF ปกติได้สำหรับ PowerPoint รุ่นเก่า นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้โปรแกรมอื่น ๆ หรือบริการออนไลน์ที่ให้บริการแปลงเป็น PDF ฟรีได้เช่นเดียวกัน
3. เวอร์ชัน PowerPoint ไหนที่มีคุณลักษณะเซฟเป็น PDF?
– PowerPoint เริ่มต้นที่เวอร์ชันปี 2010 ดังนั้นคุณสามารถใช้ฟีเจอร์เซฟเป็น PDF ได้หาก PowerPoint ของคุณเป็นรุ่น 2010 หรือใหม่กว่า
4. ฉันสามารถแก้ไขไฟล์ PDF หลังจากแปลงจาก PowerPoint ได้หรือไม่?
– ในทางปกติคุณไม่สามารถแก้ไขไฟล์ PDF ที่ได้จากการแปลงจาก PowerPoint โดยตรง แต่คุณสามารถใช้โปรแกรมตัวแก้ไข PDF เช่น Adobe Acrobat Professional เพื่อแก้ไขเนื้อหาใน PDF เท่านั้น
เป็นไปได้ที่คุณอาจพบปัญหาขณะเซฟไฟล์ PowerPoint เป็น PDF แต่คุณสามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ด้วยวิธีการที่กล่าวมา หรือหากรุณาอ่านคำแนะนำที่ระบุไว้ในความช่วยเหลือการใช้งานของ PowerPoint
Excel บันทึกเป็น Pdf ไม่ได้
Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลตาราง โดยสามารถทำงานกับข้อมูลที่มีความซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีฟีเจอร์ที่น่าทึ่งหลายอย่าง อีกทั้งยังสามารถบันทึกไฟล์ข้อมูลเป็นรูปแบบ PDF ได้อีกด้วย แต่บางครั้ง ผู้ใช้อาจพบเจอปัญหาที่ Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้ ทำให้ต้องหาวิธีแก้ไขเพื่อให้สามารถบันทึกไฟล์ลงเป็น PDF ได้ตามปกติ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และสอนการใช้งานการบันทึกเป็น PDF ใน Excel อีกด้วย พร้อมกับมีส่วน FAQ ที่ยอดเยี่ยมเพื่อตอบคำถามที่คุณอาจมีอยู่เกี่ยวกับหัวข้อนี้
วิธีการแก้ปัญหา Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้
1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมี Adobe Acrobat ติดตั้งในเครื่อง
เมื่อทำการบันทึกไฟล์ Excel เป็น PDF โปรแกรม Excel จะใช้ Adobe Acrobat เป็นเครื่องมือในการแปลงไฟล์ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีโปรแกรม Adobe Acrobat ติดตั้งในเครื่อง ถ้าไม่มี คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้จากเว็บไซต์ของ Adobe
2. สแกนไวรัสในไฟล์เอกสาร Excel
ไม่มียาตัวตรวจสอบไวรัสไหนที่ผ่านหน้าตาของคุณมาก่อนหน้านี้ คุณอาจต้องสแกนไฟล์ Excel เพื่อตรวจสอบว่ามีไวรัสหรือไม่ ถ้าพบไวรัสควรทำการกำจัดไวรัสก่อนที่คุณจะลองบันทึกไฟล์เป็น PDF อีกครั้ง
3. ตรวจสอบสิทธิ์ในการบันทึกไฟล์
แน่ใจว่าคุณมีสิทธิ์ในการบันทึกไฟล์ในตำแหน่งที่คุณเลือก บางครั้งพบว่าโฟลเดอร์หรือสถานที่ที่คุณต้องการบันทึกไฟล์นั้น ไม่มีสิทธิ์ในการเขียนข้อมูล แก้ไขสิทธิ์ให้ให้คุณสามารถบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้
4. ใช้โหมดการบันทึกทดลอง
กรณีที่คุณพบปัญหา Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้ และไม่สามารถระบุว่าเกิดจากอะไร คุณสามารถใช้โหมดการบันทึกทดลองได้ เมื่อคุณใช้โหมดนี้ Excel จะปรับขอบเขตและคำสั่งการใช้งานที่น้อยลง ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะสามารถบันทึกไฟล์เป็น PDF ได้
วิธีการใช้งานการบันทึกเป็น PDF ใน Excel
1. เปิดไฟล์ Excel ที่คุณต้องการบันทึกเป็น PDF
2. คลิกที่เมนู “ไฟล์” แล้วเลือก “บันทึกเป็น” จากนั้นเลือก “ไฟล์ PDF (*.pdf)” และคลิก “บันทึก”
3. ระบุตำแหน่งที่คุณต้องการบันทึกไฟล์ PDF และกด “บันทึก”
FAQs เกี่ยวกับ Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้
คำถาม: ทำไมฉันต้องการบันทึกไฟล์ Excel เป็น PDF?
ตอบ: การบันทึกไฟล์ Excel ในรูปแบบ PDF ช่วยให้คุณสามารถแชร์ข้อมูลแบบเอกสารสำเนา (hard copy) อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าผู้ที่ได้รับไฟล์จะสามารถแก้ไขโครงสร้างหรือเนื้อหาในตารางของคุณได้ สร้างความมั่นใจในการแบ่งปันข้อมูล
คำถาม: ทำไมฉันไม่สามารถบันทึกไฟล์ Excel เป็น PDF ได้?
ตอบ: มีหลายสาเหตุที่อาจทำให้คุณไม่สามารถบันทึกไฟล์ Excel เป็น PDF ได้ เช่น การไม่มีโปรแกรม Adobe Acrobat ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ไฟล์ Excel อาจติดเชื้อไวรัส หรือข้อผิดพลาดที่เกิดจากสิทธิ์ในการบันทึกไฟล์และโฟลเดอร์
คำถาม: มีวิธีใดที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้?
ตอบ: การแก้ไขปัญหา Excel บันทึกเป็น PDF ไม่ได้นั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลองติดตั้ง Adobe Acrobat ใหม่ สแกนไฟล์ Excel เพื่อตรวจสอบว่ามีไวรัสหรือไม่ แก้ไขสิทธิ์ของไดเรกทอรีหรือโฟลเดอร์ หรือใช้โหมดการบันทึกทดลองใน Excel เพื่อลดการใช้คำสั่งและคุณสมบัติย่อยที่เปิดใช้งานอยู่
หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณในการแก้ไขและใช้งานการบันทึกเป็น PDF ใน Microsoft Excel อย่างมีประสิทธิภาพ!
พบ 7 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เซฟไฟล์ pdf ไม่ได้.
ลิงค์บทความ: เซฟไฟล์ pdf ไม่ได้.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ เซฟไฟล์ pdf ไม่ได้.
- วิธีแก้ปัญหาเมื่อเปิดไฟล์ ตระกูล PDF ไม่ได้ – ทิปส์ไอที
- วิธีแก้ไข PDF | Adobe Acrobat
- PDF ที่ป้องกันด้วยรหัสผ่านและการรักษาความปลอดภัย PDF | Adobe Acrobat
- วิธีการ เปิดไฟล์ PDF – วิกิฮาว
- วิธีแก้ไข Save as PDF ไม่มี ใน Word, Powerpoint – KruPloy
- วิธี การ เซฟ ไฟล์ PDF – วิกิฮาว
- เหตุใดฉันจึงไม่สามารถแก้ไขไฟล์ PDF ได้ – Experience – Dropbox
- วิธีการบันทึกไฟล์ Word เป็น PDF โดยเลี่ยงไม่ให้อักษรเคลื่อน
- วิธีบันทึก Word และ Excel เป็น PDF ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริม
ดูเพิ่มเติม: https://vungtaulocalguide.com/an-uong