บล็อคเชน
บล็อคเชน (Blockchain) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและคาดหวังว่าจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงทัศนคติและวิธีการทำงานของตลาดและธุรกิจอันทรงคุณค่า. ที่มาของบล็อคเชนคือความต้องการที่สูงขึ้นในความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูลในยุคดิจิทัล, และคาดคะเนว่าจะสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
บล็อคเชน เป็นสถาปัตยกรรมข้อมูลชนิดหนึ่งที่เก็บข้อมูลแบบกระจายที่ออกแบบมาเพื่อให้การโอนย้ายข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและปฏิบัติการอย่างเป็นระบบ. สิ่งที่ทำให้บล็อคเชนเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คือมีความแตกต่างจากโครงสร้างแบบเครื่องแม่ข่าย(traditional centralized networks) ที่มักจะมีผู้ควบคุมการทำงานและข้อมูลอย่างเดียว. ในขณะที่บล็อคเชน กระจายข้อมูลของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในระบบ เช่นเดียวกับแบบเครื่องแม่ข่าย แต่มีเพียงนิติเอกสารทั้งระบบเท่านั้น.
เทคโนโลยีบล็อคเชนแสดงถึงกระบวนการทำงานแบบเครื่องแม่ข่ายกระจาย (decentralized network) ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของข้อมูลขณะที่มากมี. มีผู้ใช้ที่เข้ามาร่วมสร้างบล็อกบนระบบเครือข่าย เมื่อมีคนอื่นๆ ทำหน้าที่ยืนยันถึงความถูกต้อง การโอนย้ายข้อมูลจะถูกซิงค์โครไนซ์ในทุกๆต้นทาง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะปลอดภัยและถูกต้องตรงตามที่กำหนด. การทำงานของบล็อคเชนสนับสนุนรูปแบบการทำงานที่ปลอดภัยและโปร่งใส ได้รับความสนใจจากธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง.
ความปลอดภัยของบล็อคเชนมาจากการใช้กระบวนการทางคณิตศาสตร์ชื่อว่า “การถอดรหัสแบบความยาก” (Cryptographic Hash Function) เทคโนโลยีนี้จะทำหน้าที่สร้างประทับเวลา (Timestamp) เพื่อบัญชีว่าข้อมูลได้ถูกควบคุมและยืนยันสถานะปัจจุบัน. เมื่อข้อมูลถูกบันทึกเข้าสู่บล็อคเชนแล้ว จะไม่สามารถทำการแก้ไขหรือลบข้อมูลได้ ซึ่งทำให้เป็นเครือข่ายที่ปลอดภัยอย่างมากแตกต่างจากระบบที่มีคนยืนยันความถูกต้อง. นอกจากนี้ยังมีการทำตามเครื่องหมายประทับว่าสถานะของข้อมูล ขณะการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หรืออื่นๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นระบบ. โดยประโยชน์จากการบันทึกข้อมูลตรวจสอบจากผู้ใช้และปัญหาของระบบสามารถระบุได้.
บล็อกเชน ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก.
1. โครงสร้างบล็อก ประกอบด้วยข้อมูลส่วนที่สำคัญ คือ ข้อมูลการแพร่กระจาย, ประวัติของ บล็อกก่อนหน้า และตัวประยุกได้ภายหลัง.
2. ระบบนิติเอกสาร เป็นเทคโนโลยีของการกำกับและการยืนยันว่าข้อมูลที่บันทึกและการดำเนินการนั้นถูกต้องตามหลักเกณฑ์และกฏหมายที่กำหนด.
3. เครือข่ายบล็อกเชน กลุ่มของบุคคลที่เชื่อมโยงกันโดยแลกเปลี่ยนข้อมูลและบันทึกการดำเนินการเพื่อสร้างบล็อกเชนขึ้นมา สามารถรับรู้ถึงสถานะของข้อมูลผ่านเครือข่ายที่บันทึกได้.
บล็อกเชน ได้มีการนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ. ตัวอย่างการใช้งานคือในธุรกิจการซื้อขายสินค้าเชิงอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น. นอกจากนี้ยังมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการทำธุรกรรมที่ความเร็วสูง เช่น การทำธุรกรรมการชำระเงิน, การทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์, และการทำธุรกรรมโลจิสติกส์.
การเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคริปโต
บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล (Digital Currency) เชื่อมโยงกันและมักทำงานร่วมกัน. สกุลเงินดิจิทัลที่คุ้นเคยกับประชาชนมากที่สุดคือบิตคอยน์(Bitcoin) ซึ่งเป็นสกุลเงินเสมือนที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน. บิตคอยน์มีลักษณะเป็นสกุลเงินแบบเครื่องแม่ข่าย (decentralized currency) ซึ่งไม่ได้มีผู้ควบคุมการทำงานและราคา. สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่คุ้นเคย และอาจจะมีความรู้สึกต่อการลงทุน คือเอเธอร์ริวมาย (Ethereum), ไลท์คอยน์ (Litecoin) และอื่นๆ.
คริปโตเป็นเทคโนโลยีต้นแบบของเครื่องหมายดาว (Cryptography) เครื่องมือที่สำคัญในการทำบล็อกเชน ทำหน้าที่การเข้ารหัสข้อมูลและสร้างลายมือ digital signature เพื่อยืนยันว่าการประมวลผลข้อมูลถูกต้อง. คริปโตมีความเร็วในการทำงานที่รวดเร็วและปลอดภัย ทำให้บล็อกเชนเป็นเครือข่ายที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้.
วิวัฒนาการของเทคโนโลยีบล็อกเชน
เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาทำความรู้จักกับประชาชนในปี พ.ศ. 2550 โดยถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในช่วงปี พ.ศ. 2557 พบว่าบล็อกเชนมีศักยภาพในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับความสนใจจากผู้ชายที่เกี่ยวข้องอย่างแพร่หลาย
ทั้งนี้เพราะบล็อกเชนทำการกระจาย (Decentralized) และปลอดภัย (Secure). อีกทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นยังมีการทำให้ข้อมูลชุดเดียวเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากที่สาธาร
Blockchain คืออะไร บล็อกเชนทำอะไรได้บ้าง นอกจากแค่ Cryptocurrency /Bitcoin | Dgth
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: บล็อคเชน บล็อกเชน หมายถึง, บล็อกเชน ข้อดี ข้อเสีย, บล็อกเชนคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร, บล็อกเชน คริปโต, วิวัฒนาการของเทคโนโลยีบล็อกเชน, ประเภทของบล็อกเชน, องค์ประกอบของบล็อกเชน, ประโยชน์ของบล็อกเชน
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ บล็อคเชน
หมวดหมู่: Top 99 บล็อคเชน
ดูเพิ่มเติมที่นี่: vungtaulocalguide.com
บล็อกเชน หมายถึง
บล็อกเชน เป็นรูปแบบของเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บและแชร์ข้อมูลอย่างปลอดภัย ระบบบล็อกเชนใช้การกระจายข้อมูลหนึ่งก้อนบนหลายเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ซึ่งมีประโยชน์ที่สำคัญคือการป้องกันการแก้ไขหรือปลอมข้อมูลเกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้บล็อกเชนพิเศษคือความทนทานและความเชื่อถือได้ของข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบ
เทคโนโลยีบล็อกเชนเริ่มต้นและเป็นพื้นฐานของการใช้งานเหรียญคริปโต (Cryptocurrency) เช่นบิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยบล็อกเชน และถูกใช้ในการทำธุรกรรมดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากขึ้น ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาความน่าเชื่อถือในการโอนเงินระหว่างบุคคลโดยไม่มีธนาคารเป็นตัวกลาง ได้ได้ถ่ายทอดให้บล็อกเชนได้รับความสนใจจากวงกว้างขึ้น
วงการธุรกิจกำลังเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่และเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน สิ่งที่ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากบล็อกเชนในวงการธุรกิจคือความโปร่งใสในกระบวนการที่ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลที่เป็นกลาง การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนยังสร้างโอกาสเพิ่มเติมในการลดต้นทุนและเวลาในกระบวนการธุรกิจ
การประยุกต์ใช้บล็อกเชนที่ได้รับความสนใจอย่างหนึ่งคือการทำสัญญาอัจฉริยะ หรือที่เรียกว่าสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่รันได้อัตโนมัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยใช้บล็อกเชนในการเก็บรวบรวมข้อมูลและสืบทอดการทำงาน สัญญาอัจฉริยะนี้สามารถทำให้กระบวนการทำสัญญาทางธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและแน่นอน โดยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่เชื่อถือในแบบธรรมเนียมการทำธุรกิจและลดการติดอยู่กับคำสั่งทางกฎหมาย
คำถามที่พบบ่อย:
1. สิ่งที่ทำให้บล็อกเชนมีความปลอดภัยมากกว่าระบบทั่วไปคืออะไร?
ตอบ: ระบบบล็อกเชนมีความปลอดภัยมากกว่าระบบทั่วไปเนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บไว้อย่างกระจัดกระจายในหลายเครื่องคอมพิวเตอร์ และเดิมพันที่ใช้โดยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
2. บล็อกเชนสามารถป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลได้อย่างไร?
ตอบ: แต่ละบล็อกจะมีหมายเลขอ้างอิงไปยังบล็อกก่อนหน้านั้น เมื่อมีการแก้ไขข้อมูลที่นี่นั้นภายหลังจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในรหัสของบล็อกนั้นด้วย ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าข้อมูลถูกเปลี่ยนแปลง
3. บล็อกเชนสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้หรือไม่?
ตอบ: เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมหลายแบบ เช่น การโอนเงินระหว่างประเทศ การตรวจสอบและการจัดเก็บสิทธิบัตร และการติดตามสิ่งของในโซ่อุปทาน
4. บล็อกเชนมีข้อจำกัดอะไรบ้าง?
ตอบ: บล็อกเชนยังมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ความจำเป็นของการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มากขึ้น เมื่อข้อมูลถูกเพิ่มใหม่ในบล็อกแต่ละรอบ และความล่าช้าในการสร้างบล็อกใหม่กับระบบบล็อกเชนที่ใช้พลังงานมาก
ในสายอาชีพและธุรกิจที่พัฒนาต่อไป บล็อกเชนอาจจะมีบทบาทสำคัญ เทคโนโลยีที่คงอยู่ต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในการส่งเสริมสร้างกระบวนการทางธุรกิจที่ปลอดภัย โปร่งใส และที่ไม่ต้องใช้คนเป็นกลางในขั้นการทำงาน
บล็อกเชน ข้อดี ข้อเสีย
บล็อกเชน เป็นหลักการทำงานแบบกระจาย (decentralized) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นกระจายไปในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องมีภาครัฐหรือลำดับบัญชีกลาง (central authority) เป็นผู้ควบคุม ด้วยรูปแบบการทำงานที่เชื่อมโยงกันในลำดับของบล็อก (Block) ทำให้การทำธุรกรรมของบล็อกเชนนั้นสามารถตรวจสอบได้ง่ายและปลอดภัยกว่าการใช้ระบบแบบดั้งเดิม
ข้อดีของบล็อกเชน
1. ความปลอดภัยสูง: บล็อกเชนใช้ระบบการเข้ารหัส (cryptography) เพื่อความปลอดภัย แฝงความลับไว้ในข้อมูลทุกบล็อกที่ถูกเพิ่มลงในเครือข่าย ทำให้เป็นไปได้ยากที่จะปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่ในบล็อกนั้น ซึ่งทำให้ผู้ใช้ที่เข้าถึงข้อมูลในบล็อกเชนมีความเชื่อมั่นในข้อมูลนั้นๆ มากขึ้น
2. การทำธุรกรรมเร็วและประหยัด: การทำธุรกรรมในบล็อกเชนสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่านกลางที่เป็นการลดระยะเวลาในการทำธุรกรรม นอกจากนี้ ยังลดค่าใช้จ่ายในระบบการทำธุรกรรมด้วยการตัดออกเครือข่ายกลาง (middleman) ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการทำธุรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม
3. การเปิดเผยและความโปร่งใส: ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกเก็บบันทึกในบล็อกเชนสามารถตรวจสอบได้เพื่อความโปร่งใส แทบจะไม่มีการถอดรหัสและการส่งเสียงเสียงที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างความเชื่อในการดำเนินการของหลายกลุ่มผู้ใช้
4. ระบบการกำกับดูแลโดยสังเคราะห์: บล็อกเชนมีระบบย่อย (sub-network) ที่คอยสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของมันด้วยการตรวจสอบข้อมูลและการรวมกลุ่มผู้ใช้ เพราะเป็นรูปแบบการทำงานแบบกระจาย ทำให้ทุกคนในระบบมีส่วนร่วมในการพัฒนาและการตัดสินใจต่างๆ
ข้อเสียของบล็อกเชน
1. ความถี่ในการทำธุรกรรม: ลักษณะกระจายของบล็อกเชนทำให้ความถี่ในการทำธุรกรรมลดลง ความยากที่จะทำธุรกรรมได้เร็วขึ้นกับขนาดของบล็อกเชน ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการทำธุรกรรมที่มีปริมาณมากพร้อมกันได้
2. การใช้พื้นที่เก็บข้อมูล: บล็อกเชนใช้ระบบการเก็บข้อมูลแบบกระจายที่แตกต่างจากระบบแบบดั้งเดิม ซึ่งทำให้ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น และต้องใช้แบตเตอรี่มากขึ้นในระบบบล็อกเชนที่ใช้เทคโนโลยีการแบ่งปันข้อมูลแบบที่น้อยลง
3. ข้อจำกัดของความเร็ว: การทำงานของบล็อกเชนมีความล่าช้ากว่าระบบดั้งเดิมที่มีกลไกของธนาคารหรือระบบการทำธุรกรรมที่ใช้ระบบการทำงานธรรมดา หากมีการทำธุรกรรมมากพร้อมกันและมีการปรับปรุงระบบที่ล่าช้า อาจทำให้การใช้งานบล็อกเชนล่าช้าลง
4. ความซับซ้อนของเทคโนโลยี: บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อน และต้องมีความเข้าใจด้านเทคนิคในการปรับใช้งาน หากหนึ่งคนหรือหน่วยงานไม่มีความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยี อาจลดประสิทธิภาพของการทำงาน
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. บล็อกเชนใช้ในอุตสาหกรรมใดบ้าง?
บล็อกเชนใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ธนาคารและการเงิน การค้าสมัยใหม่ สุขภาพ ด้านพลังงาน และอื่น ๆ รวมถึงเทคโนโลยีเว็บเทคโนโลยี (Web 3.0) และสมาร์ทคอนแทร็คเมือง (Smart Cities)
2. การทำธุรกรรมในบล็อกเชนคืออะไร?
การทำธุรกรรมในบล็อกเชนหมายถึงการส่งหรือรับข้อมูลระหว่างผู้ใช้ในเครือข่ายบล็อกเชน โดยใช้ระบบการเข้ารหัสเพื่อป้องกันการปลอมแปลง และระบบการตรวจสอบที่เชื่อมโยงกันเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม
3. บล็อกเชนมีผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูลหรือไม่?
บล็อกเชนสามารถจัดเก็บข้อมูลได้แบบเข้ารหัสที่สูง ดังนั้น ข้อมูลในบล็อกเชนมักจะถูกพิจารณาว่าเป็นข้อมูลที่ปลอดภัยและสามารถเปิดเผยได้ แต่ก็ยังขึ้นอยู่กับแต่ละแอปพลิเคชันเพื่อปรับความเป็นส่วนตัวข้อมูลให้สูงขึ้นได้
4. ผู้ใช้ต้องการความรู้และทักษะทางเทคโนโลยีใดในการแลกเปลี่ยนในบล็อกเชน?
ผู้ใช้ต้องมีความรู้และทักษะทางเทคโนโลยีในการใช้งานบล็อกเชน รวมถึงการเข้าใจหลักการทำงานและการใช้งานของเทคโนโลยีการเข้าหรืออ่านบล็อกเชน ซึ่งรวมถึงการใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) เพื่อจดจำและบริหารจัดการกับข้อมูลในบล็อกเชน
มี 18 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ บล็อคเชน.
ลิงค์บทความ: บล็อคเชน.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ บล็อคเชน.
- เทคโนโลยีบล็อกเชนคืออะไร – AWS
- รู้จักเทคโนโลยี Blockchain โอนเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์
- บล็อกเชน (Blockchain) คืออะไร? เข้าใจ Technology โลกการเงิน …
- “บล็อกเชน” Blockchain คืออะไร เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาเปลี่ยนโลกยังไง
- บล็อกเชน – วิกิพีเดีย
- Blockchain คืออะไร – มีประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้อย่างไรบ้าง
- Blockchain คืออะไร เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกหรือเปล่า?
- Blockchain คืออะไร? การปฏิวัติตัวกลางครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
- บล็อกเชน (Blockchain) เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตเรา – efinanceThai
- Blockchain(บล็อกเชน)คืออะไร? – Mitrade
ดูเพิ่มเติม: https://vungtaulocalguide.com/an-uong